เมื่อฉันกลายเป็นสาวชาวนายุค2499
เฌอเอมจะทำอย่างไรเมื่อยมทูตนำวิญญาณของเธอมาผิดฝาผิดตัวและต้องกลายมาเป็นเด็กสาวชาวนานามว่าชะอม
รายละเอียด
สายตาฝ้าฟางของชายชรากำลังมองไปยังหญิงชราผู้ร่วมชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุข แม้สายตาของเขาจะเริ่มขุ่นมัวเนื่องจากอายุที่มากขึ้น
แต่กระนั้นสายตาทั้งสองข้างก็ยังคงทอดมองด้วยความอ่อนโยนเฉกเช่นเมื่อครั้งวันวาน “ตาคะ มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ยายเรียกไปกินข้าวตั้งนานแล้วนะ” น้ำเสียงค่อนข้างดัง ของหลานสาวผู้กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่นตะโกนข้างหูของเขา สาเหตุที่ต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะหูของชายชราเริ่มจะไม่ได้ยินจากความเสื่อมถอยของสังขาร “ตากำลังนั่งมองยายของหลานอยู่นะสิ ชมพู่เอ็งว่ายายสวยไหม” น้ำเสียงแหบพร่า เอ่ยถามหลานสาวด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น ซึ่งคำถามนี้ ชมพู่อมยิ้มอย่างล้อเลียนในขณะมองใบหน้าของผู้เป็นตา พร้อมกับตอบออกไปเหมือนทุกวันนับตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ “สวยจ้า ยายชะอมของหนูสวยที่สุด ไม่อย่างนั้น จะได้ตำแหน่งนางนพมาศประจำจังหวัดมาครองได้ยังไง” “ใช่ไหมล่ะ ตาก็คิดเหมือนเอ็งนั่นแหละ ย้อนกลับไปตอนยายของเอ็งสาว ๆ นะ มีแต่คนมารุมจีบกันให้ครึก แต่ตากลับเป็นผู้โชคดีที่ได้ยายของเอ็งมาครองทั้งตัวและหัวใจเมื่อนึกถึงในตอนนั้นนะ หนุ่ม ๆ คู่แข่งของตาหลายคน น้ำตางี้ไหลเป็นทาง และยิ่งตอนตา ยกขันหมากไปสู่ขอยายนะตาไม่อยากจะคุย คนพวกนั้นก็ยังเข้ามาจับไม้จับมือแสดงความยินดีกับตาด้วย” แม้ผู้พูดบอกไม่อยากจะคุย ทว่าวาจากลับสวนทาง ชมพู่จึงได้แต่ฉีกยิ้มให้กับความคุยฟุ้งของผู้เป็นตา “คนพวกนั้นเขาไม่แค้นใจตากันหรือจ๊ะ เขาถึงได้มาแสดงความยินดีแบบนี้” เด็กสาว ถามขึ้นเหมือนเดิมอย่างไม่รู้สึกเบื่อ “ยุคนั้น แม้ว่าจะเป็นยุคนักเลง ทว่าพวกเขาก็มีความเป็นลูกผู้ชายมากพอ รู้จักแพ้ รู้จักอภัย และเผอิญว่าตาเก่งกว่าคนพวกนั้นอย่างไรเล่า” ชายชรา ผู้เคยทำตัวเป็นนักเลงเก่ากล่าวกลั้วเสียงหัวเราะ ผู้เป็นหลานเองก็ฟังอย่างสนุกสนาน แม้ว่าเจ้าตัวจะฟังซ้ำ ๆ มาหลายรอบแล้วก็ตาม ชะอมมองตากับหลานด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักและรู้สึกสงสารผู้เป็นสามีที่ความทรงจำเริ่มถดถอย แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหนเรื่องเกี่ยวกับเธอชายคนนี้กลับไม่เคยลืม “ตากับหลาน มัวแต่คุยโวกันอยู่นั่นแหละ รีบมากินข้าวกินปลากันได้แล้ว วันพรุ่งนี้ชมพู่ จะต้องเดินทางไปมหาวิทยาลัยนะ รีบกินรีบนอน จะได้ไม่ตื่นสาย” เสียงแหบแห้งของหญิงชรา ทำให้สองตาหลานส่งยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ คนทั้งสามใช้ชีวิตในหมู่บ้านชนบทอันเป็นบ้านเดิมของชะอม ซึ่งลูกสาวกับลูกเขยผู้ทำงานอยู่เมืองหลวง ต่างก็เคยร้องขอให้เธอกับสามีย้ายไปอยู่ด้วยกันตั้งหลายครั้ง แต่เนื่องจากพวกเขาต่างใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่นี่มาทั้งชีวิต ดังนั้นจึงได้พากันปฏิเสธ อีกอย่างมะขามผู้เป็นน้องชายของชะอมก็ถือเพศบรรพชิตบวชไม่สึกอยู่ภายในวัดประจำหมู่บ้าน ชะอมจึงไม่คิดจะทิ้งน้องชายเพียงคนเดียวไปอยู่ที่อื่น ทางด้านดินหรือปฐพีผู้เป็นสามีก็เข้าใจภรรยาเป็นอย่างดีถึงความรักและความผูกพันระหว่างพี่น้อง รวมถึงถิ่นบ้านเกิดท้องทุ่งแห่งนี้ อันเป็นสถานที่ก่อเกิดทั้งความรัก ความเศร้าและอีกหลายเรื่องราวที่มีทั้งทุกข์และสุข ดังนั้นบุตรสาวเพียงคนเดียวจึงไม่เล้าหลือให้บิดามารดาไปอยู่กับตนอีก กระนั้นด้วยความเป็นห่วงเจ้าตัวจึงได้ว่าจ้างญาติพี่น้องซึ่งรู้จักนิสัยใจคอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยให้เป็นผู้ดูแลคนทั้งสองแทน ส่วนเจ้าตัวกับครอบครัวก็จะเดินทางมาหา พ่อแม่ในช่วงวันหยุดหรือว่างจากงาน โชคดีที่ว่าบ้านเกิดของมารดานั้นอยู่ห่างจากเมืองหลวงเพียงไม่กี่ชั่วโมงและในยุคสมัยนี้มีโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตจึงทำให้ความกังวลมีไม่มากเหมือนสมัยก่อน แต่ถึงอย่างนั้นด้วยความเป็นห่วง ผู้เป็นลูกสาวจึงได้ส่งบุตรสาวคนเล็กที่มีความผูกพันกับตายายผิดจากพี่ชาย พี่สาว อีกทั้งเจ้าตัวก็เป็นเด็กขี้อ้อนให้มาอยู่กับพ่อแม่หลังจากจบม.6 ซึ่งผู้เป็นบุตรสาวก็ไม่ขัดข้อง แถมซ้ำยังดีใจมากอีกด้วย ดังนั้นชมพู่จึงเลือกเรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งซึ่งนับว่าเป็นมหาวิทยาลัยดังประจำจังหวัดแห่งนี้แทนการอยู่กับพ่อแม่ตน และผู้เป็นตาเองก็รู้สึกเอ็นดูหลานสาวคนนี้เป็นอย่างมาก สาเหตุเป็นเพราะเจ้าตัวมีใบหน้าละม้ายคล้ายผู้เป็นยายสมัยสาว ๆ ไม่มีผิด จึงทำให้เธอเป็นที่รักของผู้เฒ่าชราทั้งสองเป็นอย่างยิ่ง โดยพี่น้องสองคนของเด็กสาวเองก็หาได้มีความอิจฉาผู้เป็นน้องไม่ เนื่องจากพวกเขาต่างก็พากันเอ็นดูน้องสาวคนนี้เช่นเดียวกัน “ยายจ๋า นั่งเหม่ออะไรอีกแล้ว” ชมพู่ ถามผู้เป็นยายที่กำลังทอดสายตามองออกไปทางระเบียงหน้าบ้าน “ยายแค่คิดถึงเรื่องเก่านะลูก หนูกินขนมหรือยัง” หญิงชรา ถอนสายตาออกจากภาพด้านนอก ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังทอแสงสีส้มเป็นสัญญาณว่าแสงสุดท้ายของวันจะหมดลง “กินแล้วจ้ะ ตาเองก็กำลังกินอยู่ ท่าทางของตาทำให้หนูอยากกินอีกรอบแล้ว ตั้งแต่หนูมาอยู่ที่นี่น้ำหนักของหนูขึ้นตั้งหลายกิโล” เด็กสาว พูดขึ้นพลางเอามือลูบท้องของตนไปมา คำพูดของผู้หญิงอันเป็นที่รักทั้งคู่ได้ดังเข้าหูของชายชราผู้กำลังกลืนขนมอินทนิลลงคอ ก่อนที่เจ้าตัวจะพูดออกมาอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดของหลานสาวคนโปรด “หลานไม่อ้วนหรอก ตาคิดว่าออกจะผอมไปด้วยซ้ำ ตาจะพูดให้ฟัง หากเป็นในสมัยตอนตายังหนุ่มนะ ยิ่งใครมีรูปร่างอวบ ๆ หรืออ้วนนี่เขาจะคิดกันว่าที่บ้านมีฐานะ แต่จะว่าไปตอนที่ตาเจอกับยายของหลาน ยายของเอ็งก็ผอมนะทั้ง ๆ ที่บ้านของเขา ก็ออกจะร่ำรวยกว่าทุกคนในหมู่บ้านด้วยซ้ำ” คำพูดของชายชราฟังดูย้อนแย้ง “ตาจ๊ะ สรุปว่าอ้วนคือดีหรือไม่ดี หนูล่ะงง” ชมพู่ ถามขึ้นด้วยสีหน้าฉงน “ก็ต้องดีสิ แต่ตาว่ารูปร่างแบบยายเอ็งนั่นแหละดีที่สุด” คำตอบซื่อ ๆ ของชายชราทำให้หญิงต่างวัยทั้งคู่หัวเราะขึ้นพร้อมกัน “สำหรับตา อะไร ๆ ก็ยายชะอมอันดับหนึ่งเสมอล่ะจ้ะ” ชมพู่สัพยอก “เอ็งเพิ่งรู้รึ ตานึกว่าเอ็งรู้มาตั้งนานแล้วซะอีก” ชายชรา ส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ชะอม มองการโต้ตอบของสองตาหลาน ก่อนจะนึกย้อนไปถึงวันวาน (หากในตอนนั้นฉันไม่ได้โอกาสมีชีวิตใหม่ก็คงจะไม่ได้เจอกับคู่ชีวิตที่แสนดีแบบนี้ ขอบคุณนะคะท่านยมที่มอบชีวิตครั้งที่สองอันแสนล้ำค่านี้ให้กับฉัน) หญิงชรา คิดขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งปากและตา...อ่านเพิ่มเติม
รีวิวผู้อ่าน
0 รีวิว
จัดเรียงตาม
กำลังโหลด...
อ่านบนแอปฯ Fictionlog
ดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อการอ่านที่ดียิ่งขึ้น
สารบัญ
72 ตอน
· เพิ่มตอนล่าสุด 20 ส.ค. 2024
กำลังโหลด...
เผยแพร่โดย
12
เรื่อง
38
ผู้ติดตาม