หลังต้องกลายมาเป็นผู้ติดตามของเทพเจ้าD ก็พยายามหาทางหลุดจากการติดตามจนวันนึงเทพเจ้าD ได้กล่าวขึ้นมา “ชั้นเคยบอกสินะว่าพลังงานที่ใช้ในการฟื้นฟูโลกใบนั้นเป็นการจ่ายล่วงหน้าในตัวของเธอและตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะให้เธอได้ฝึกฝนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งตามที่บอกไป”
“แล้วชั้นจะต้องทำยังไงบอกมาได้แล้วยัยเทพเวรนี้”ชิโระได้ตอบกลับไปเช่นนั้น(ชื่อจริงคือ ชิราโอริ นะครับสำหรับคนที่ไม่รู้)
“แหมๆชิโระจังนี้ใช้คำพูดกับผู้เป็นนายได้แย่จังนะ เอาเถอะที่ที่ชั้นจะส่งเธอฝึกก็คือโลกที่ใช้สิ่งที่เรียกว่าพลังวิญญาณเป็นเส้นทางการเพิ่มความแข็งแกร่งอีกอย่างพวกเทพของที่นั้นเองก็หายไปแล้วด้วยการพัดพาจากความโกลาหลของมิติเวลา แต่ถึงพวกมันจะอยู่ก็เป็นแค่พวกอ่อนแอสำหรับชั้นน่ะนะ”
“แล้วจะให้ฝึกยังไง?”ชิโระได้ถามกลับด้วยความสงสัย
“ก็ชั้นจะผนึกพลังของเธอเอาไว้และส่งไปฝึกที่โลกนั้นโดยจะให้เธออยู่ในฐานะเด็กกำพร้านะ อ๋อแล้วก็ที่โลกนั้นเมื่ออายุได้6ขวบจะมีการปลุกสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณยุทธซึ้งหากมีพลังวิญญาณก็สามารถฝึกฝนได้โดยระดับพลังวิญญาณแต่กำเนิดมีสูงสุดถึงระดับที่10เท่านั้น พวกที่มีพลังวิญญาณ0คือพวกที่ไม่สามารถฝึกฝนได้ ชั้นจะให้เธอมีวิญญาณยุทธอารัคเน่ ส่วนพลังวิญญาณแต่กำเนิดคือ10แต่จะปิดบังให้เหลือ5แล้วกันยิ่งเด่นในช่วงแรกมันอันตรายใช่ไหมหล่ะ และหากอยากเลื่อนขั้นต้องใช้วงแหวนวิญญาณเรื่องนี้ต้องไปศึกษาหาทางเองนะยังไงคนภายนอกก็เห็นเธอมีระดับพลังวิญญาณแค่5ก็ใช้เวลานั้นแสร้งฝึกฝนเพิ่มพลังวิญญาณแล้วหาทางเอานะแต่เอาเถอะวงแหวนแรกเดี๋ยวชั้นให้เองแล้วกัน แล้วก็เคียวของเธอชั้นจะให้เป็นวิญญาณยุทธที่2โดยจะปิดไว้ให้เหมือนเดิม หวังว่าจะทำให้ชั้นสนุกได้นะหึๆ เมื่อเธอได้เป็นเทพในโลกนั้นก็จะปล่อยไว้ประมาณ10ปีแล้วค่อยพากลับแต่ถึงจะบอกว่าปล่อยแต่ก็คอยดูอยู่ อ๋ออีกเรื่องในโลกนั้นการเป็นเทพต้องใช้ตำแหน่งเทพแต่เธอไม่ต้องเพราะเป็นเทพอยู่แล้ว เอาหล่ะเข้าใจรึเปล่าจะได้ส่งไปเลย”
“อืม ถึงจะเยอะไปหน่อยแต่ก็เข้าใจแล้วขอถามอีกอย่างถ้าชั้นทำให้โลกใบนั้นเกิดหายนะขึ้นมาก็ไม่เป็นไรใช่ไหม เช่น ฆ่าสิ่งมีชีวิตสักครึ่งนึง”
“ก็ไม่มีปัญหานะ ส่วนเวทของเธอก็ยังใช้ได้เหมือนเดิมแค่ใช้พลังวิญญาณแทนไปฝึกๆเอาเองละกัน”
“ได้ถึงบอกว่าไม่อยากไปก็คงทำอะไรไม่ได้”
“อืมก็แปลกใจนิดหน่อยเพราะปกติเธอไม่ค่อยพูดเท่าไหร่แต่ก็เอาเถอะไว้เจอ”
หลังจากDพูดจบร่างของชิโระก็ได้หายไปจากที่แห่งนั้นในทันที ที่นั้นเหลือเพียงDและความมืดมิดรอบข้างรวมถึงหน้าจอแสงที่คอยฉายภาพต่างๆเพียงเท่านั้น

“ ” คือ การพูด
‘ ’ คือ การพูดในใจหรือการคิด