จบ
608.00
ราคาของทุกตอน ไม่รวมตอนที่เคยซื้อไปแล้ว
รายละเอียด

'ดุจดารา' พึ่งเข้าใจความว่ารู้หน้าไม่รู้ใจแจ่มแจ้งเมื่อวันที่เธอตาย ในฐานะสัตวแพทย์ประจำศูนย์รักษาพันธ์ุสัตว์ป่า หน้าที่ของ 'ดาว' คือการดูแลเพื่อนต่างเผ่าพันธ์เหล่านั้นให้ดีที่สุด และเพราะความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่นี่เอง ที่เป็นเหตุให้ความตายมาถึงตัวเธอเร็วชนิดที่ตั้งตัวไม่ทัน แม้จะเป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ แต่ดาวไม่ได้ถือโทษโกรธแค้นใคร เธอเพียงเสียดายที่ไม่สามารถดูและเพื่อน ๆ ของเธอต่อไปได้เท่านั้น
แรกทีเดียวนึกว่าตายแล้วต้องไปนรกหรือสวรรค์ตามคำสอนของผู้ใหญ่ที่ได้ยินมาตลอด จนเมื่อตายเองถึงได้รู้ พอตายแล้วเราก็แค่ไปเกิดใหม่ทั้งอย่างนั้น ไม่เห็นมีใครมาพิพากษา ไม่มีกระทั่งการลบความทรงจำ พร้อมกับความรู้ใหม่ที่ว่าโลกเราไม่ได้มีใบเดียวอย่างที่วิทยาศาสตร์พยายามบอก เพราะที่ที่เธอมาเกิดนั้นอยู่เหนือจากวิทยาศาสตร์ทั้งปวง ที่นี่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ สัตว์วิเศษ และการฝึกตน ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือบางคนสามารถอายุยืนได้กว่าร้อยปีโดยที่หน้าไม่มีความเปลี่ยนแปลง ในฐานะหมอ...นี่มันเหนือกฎเกณฑ์ดีชะมัด!!!
ข้อมูลเบื้องต้น
แผ่นดินต้าลู่ คือ แผ่นดินที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตวิญญาณ ทำให้มนุษย์ สัตว์ หรือแม้กระทั่งพืชที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินนี้สามารถซึมซับพลังฟ้าดินเพื่อฝึกฝนพลังวิญญาณได้ แน่นอนทุกสิ่งย่อมมีขีดจำกัด สรรพสิ่งที่สามารถฝึกฝนไปจนถึงขั้นบรรลุนั้นมีน้อยจนใช้มือข้างเดียวนับได้ แผ่นดินต้าลู่ที่กว้างใหญ่นี้ แบ่งออกเป็น 3 แคว้น 1 ดินแดนพิเศษ ได้แก่
- แคว้นอู๋ ปกครองโดยราชสกุล โอวหยาง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ
- แคว้นหนันถัง ปกครองโดยราชสกุล เจินสุย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก
- แคว้นเฉียนสู ปกครองโดยราชสกุล ซือหม่า ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก
ดินแดนพิเศษมีนามเรียกขานว่า ‘หัวลี่’ มีพื้นที่มากกว่าทั้งสามแคว้นรวมกัน เป็นที่ตั้งของสำนักใหญ่ทั้ง 9 สำนัก ได้แก่
1. เพลิงตะวัน
2. นาวาสวรรค์
3. องคาพยัคฆ์
4. ปักษาเหินหาว
5. โอสถสถาน
6. ประกายดาว
7. อนงค์นคร
8. ตำหนักเหยียบเมฆา
9. แดนหมื่นพิษ
เจ็ดสำนักแรกนั้นถือเป็นสำนักฝ่ายธรรมะ ส่วนอีกสองสำนักเนื่องจากศึกษาวิชานอกรีตจึงถูกขนานนามว่าสำนักฝ่ายอธรรม หรือสำนักนอกรีต
แม้แผ่นดินต้าลู่จะแบ่งเป็น 3 แคว้น 1 ดินแดนพิเศษที่ชัดเจน แต่ในทางปฏิบัตินั้น คนของราชวงศ์หรือต่อให้เป็นฮ่องเต้ หากพบศิษย์สายตรงของสำนักใหญ่ก็ยังต้องไว้หน้าอยู่สามส่วนเสมอ พลังอำนาจของสำนักใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถท้าทายได้ ทั้งนี้ก็เพราะมนุษย์ที่มีพรสวรรค์ในการฝึกฝนทั้งหลาย ต่างรวมตัวกันอยู่ในสำนักใหญ่เหล่านี้
ระหว่างแคว้นทั้งสามกับดินแดนพิเศษมีผืนป่าขนาดใหญ่นามว่า ‘ป่านิลกาฬ’ กั้นอยู่ ป่านิลกาฬเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลากชนิด โดยแบ่งระดับออกเป็น
‘สัตว์ป่า’ เป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ทั่วไป มีจำนวนมากที่สุด ไม่พบพลังวิเศษและหินวิญญาณ โดยมากมักอาศัยอยู่ในตามป่าที่มีพลังวิญญาณไม่สูงนัก
‘สัตว์อสูร’ คือสัตว์ป่าที่บำเพ็ญเพียรจนสามารถซึมซับพลังแห่งฟ้าดินเพิ่มระดับความสามารถของตัวมันเอง ความอันตรายแบ่งเป็น 10 ระดับ ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายมากเท่านั้น สัตว์อสูรหลังจากสิ้นชีวิตแล้วจะทิ้งหินวิญญาณที่มีพลังเอาไว้ อย่างไรก็ตามมนุษย์ไม่สามารถดูดพลังจากหินวิญญาณโดยตรงได้ จำเป็นต้องอาศัยการหลอมยา หรือนำไปผสานกับอาวุธจึงจะสามารถใช้ประโยชน์ได้
สุดท้ายคือ ‘สัตว์เทวะ’ สัตว์เทวะคือสัตว์อสูรที่บรรลุพลังเหนือระดับ 10 ไปแล้ว เป็นสัตว์ที่สามารถบรรลุเป็นเซียนและสร้างกายทิพย์ได้ สัตว์เทวะถือว่าพบเจอได้ยากที่สุด หลายสิบหลายร้อยปีกว่าจะพบสักตัว
................
Let's talk สวัสดีนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน กลับมาอีกครั้งกับนิยายเรื่องใหม่ ด้วยความที่ไรต์อยากลองเขียนอะไรที่มันแฟนตาซีหน่อย ๆ พลอตเรื่องนี้ก็เลยลอยเขามาในหัว หวังว่าจะมีความสุขกับเวลาอ่านนะคะ
ป.ล.1 แน่นอนว่าไรต์แต่งนิยายเป็นอาชีพ ดังนั้นก็จำเป็นต้องหารายได้เนอะ หลังจาก 10 ตอนไรต์จะติดเหรียญ 15 วัน จากนั้นอ่านฟรี 3 วันแล้วจะกลับมาติดเหรียญอีกครั้งนะคะ ใครสายฟรีก็สามารถเข้ามาอ่านช่วงที่ไรต์ปล่อยฟรีได้เลย ถือว่าเราวินวินกันทั้งสองฝ่าย เข้าใจตรงกันนะคะ
ป.ล.2 คอมเมนต์มีผลต่อเรี่ยวแรงในใจไรต์ ช่วยคอมเมนต์หรือโดเนทกันด้วยนะคะ และที่สำคัญที่สุด อย่าลืมสุภาพกับทุกคนด้วยน้า
****นิยายเรื่องนี้แต่งจากจินตนาการเท่านั้น ข้อมูลด้านอาชีพและอื่น ๆ เป็นจินตนาการของไรต์ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดที่อ้างอิงจากความเป็นจริง ได้โปรดอ่านกันอย่างปล่อยใจไหลไปตามจินตนาการเพื่อความบันเทิงนะคะ****
รีวิวผู้อ่าน
0 รีวิว
จัดเรียงตาม
อ่านบนแอปฯ Fictionlog
ดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อการอ่านที่ดียิ่งขึ้น