รายละเอียด
ในค่ำคืนที่ฟ้าถูกบดบังจากเมฆดำ ที่กลืนกินไปทั่วท้องฟ้ายามราตรี แสงไม่อาจส่องถึงพื้นดิน สายลมที่พัดอย่างบ้าคลั่ง ต้นไม้ที่ไหวเอนไปตามสายลมที่พัดอย่างรุนแรง ไร้เสียงใดให้ได้ยินนอกจากเสียงสายลมที่พัดไปมาไม่หยุด ไม่นานเม็ดฝนก็ได้ตกลงมาจากฟ้าจนกลายเป็นสายฝนทำให้อากาศเย็นลงจนหนาวสั่น
"ซ่า....ซ่า.....ซ่า...."
"ไอ้มั่น เอ็งตอกฝาโลงให้มันดีหน่อย เดียวกลิ่นมันจะลอยไปรบกวนชาวบ้านเขา"
"ได้ครับหลวงตา"
ภายในศาลาวัด นายมั่นสัปเหร่อคนเดียวของวัดกำลังทำการตอกฝาโลงอย่างตั้งใจโดยมีหลวงตาค่อยถือตะเกียงไฟค่อยส่องแสงให้กับนายมั่น ที่กำลังตอกฝาโลงอยู่
"เสร็จแล้วเอ็งก็ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้จะได้ทำการเผาแต่เช้า"
"ได้ครับหลวงตา แล้วนี่มันศพใครหรือครับหลวงตา"
"ข้าก็ไม่รู้หรอก สภาพศพเละขนาดนั้น แถมยังเป็นศพไม่มีญาติอีก"
"งั้นผมไปนอนแล้วนะครับหลวงตา"
"ได้!! เดียวข้าก็กลับกุฏิข้าเหมือนกัน"
"ครับ..."
เมื่อกล่าวเสร็จ หลวงตาก็ได้เดินลงจากศาลาวัด และเดินไปที่กุฏิเพื่อนั่งสมาธิตามปกติที่ทำมา แต่แล้วหลวงตากลับหันไปเห็นเงาสีแดงทะมึน2ร่าง ยืนอยู่หน้าโบสถ์เมื่อเห็นดังนั้นหลวงตาจึงเดินตรงไปหาเงาทั้งสองร่างทันที
"พวกโยมมาที่นี้เพื่ออะไรหรือ พวกโยมต้องการอะไร"
เมื่อหลวงตาได้เดินมาจนถึงก็พบว่า เงาสีแดงสองร่างนั้นแท้จริงคือ วิญญาณของทหารโบราณที่ไม่ใส่เสื้อ นุ่งเพียงโจงกระเบนสีแดง ที่มือของวิญญาณทั้งสองนั้นได้ถือดาบโบราณยืนอยู่ เมื่อหลวงตาถามออกไปแต่ทั้งสองก็ไม่ตอบ แต่ทั้งสองกับเดินถอยออกไปจนหลวงตาเห็นว่าสิ่งที่อยู่ข้างหลังวิญญาณทั้งสองคือ ตะกร้าที่มีร่างของทารกร่างหนึ่งนอนอยู่ โดยตรงคอของทารกนั้นมีตะกรุดเส้นหนึ่งใส่ไว้
"พวกโยมต้องการให้อาตมาทำอะไรหรือ"
หลวงตาเห็นดังนั้นจึงถามไปเพราะว่าไม่มีวิญญาณตนใดจะมายืนเฝ้าอยู่อย่างนี้แน่ถ้าไม่มีกรรมร่วมกันมาก็คงเป็นวิญญาณบริวารของใครสักคนแต่ทั้งสองก็ไม่ตอบ เพียงแค่ชี้นิ้วไปยังร่างของทารกนั้น และได้หายไป เหลือทิ้งไว้เพียงตำราเก่าๆ เล่มหนึ่งและดาบโบราณเล่มหนึ่งที่ใบดาบเป็นสีดำสนิทวางอยู่ข้างๆ เด็กทารกนั้น
"แปลว่าอยากให้อาตมาเลี้ยงดูเด็กคนนี้ให้สินะ"
หลวงตาได้กล่าวออกมาแต่ไม่มีเสียงอะไรตอบออกมาเลย นอกจากสายลมที่พัดมาอย่างเบาๆ และสายฝนที่หยุดไป เมื่อเห็นดังนั้นหลวงตาจึงเดินไปอุ้มทารกนั้นขึ้นมา
"ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าจะเลี้ยงดูเจ้าให้ดีละกัน"
เมื่อหลวงตากล่าวจบ ทารกน้อยได้ลืมตาขึ้นมาและยิ้มให้กับหลวงตาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
"อ้าว...หลวงตายังไม่กลับกุฏิหรือครับ แล้วนั้นอะไร"
"มาก็ดีแล้ว ไอ้มั่นช่วยข้าเอาดาบกับหนังสือเล่มนั้นถือตามข้ามาที่กุฏิทีสิ"
"แล้วนี่มันเป็นของใครกันละครับหลวงตา"
"ถือตามมาเถอะ อย่าถามมาก"
"ครับ............"
และเมื่อเดินมาถึงกุฏิของหลวงตาเรียบร้อย หลวงตาได้ทำการจัดที่นอนเพื่อให้ทารกน้อยได้นอนหลับ
"นั้นลูกใครหรือครับหลวงตา"
"ข้าไม่รู้เหมือนกัน เห็นวางอยู่หน้าโบสถ์น่าจะมีใครเอามาทิ้งไว้ละมั้ง สมัยนี้วัยรุ่นท้องก่อนวัยเรียนตั้งมากมาย"
"แล้วจะเอาอย่างไงดีครับหลวงตา"
"ถามมาได้ ก็เอาไปทิ้งละมั้ง"
"หื้อ???!!!!!!........."
"ก็ต้องเลี้ยงสิว่ะ ถามแปลกๆ"
หลวงตาได้ตอบออกไป แต่ไม่ได้บอกนายมั่นทั้งหมด ทั้งเรื่องวิญญาณและที่มาของเด็ก กับนายมั่นเลย
"เเล้วจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดีละครับหลวงตา"
"อือ...งั้นชื่อ ไอ้แสง ก็แล้วกัน"
"ครับหลวงตา"
"เอาละแยกย้ายกันก่อนเถอะ...เออ...ไอ้มั่นพรุ่งนี้ไปที่อำเภอเเจ้งใบเกิดไอ้เเสงด้วยละ"
"ครับหลวงตา"
เมื่อกล่าวจบทุกคนต่างแยกย้ายไปนอน เพื่อบิณฑบาตออกแต่เช้า โดยไม่มีใครมองเห็นเลยว่ามีเงาทหารโบราณค่อยจ้องอยู่ที่หน้ากุฏิ