หมู่บ้านเซเฟีย หมู่บ้านที่เป็นที่อยู่ของมนุษย์และปีศาจที่ต้องการจะอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข ถูกจู่โจมจากปีศาจที่ไม่เห็นด้วยจนย่อยยับ เกิดเป็นโศกนาฏกรรม เซราฟ เด็กหนุ่มผู้เป็นลูกครึ่งปีศาจคนแรก และเป็นลูกชายของผู้นำหมู่บ้าน ได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์ในครานี้ ทำให้พวกเขาต้องสูญเสียสิ้นซึ่งทุกอย่าง 8 ปีให้หลัง ในตอนที่เขาได้ฟื้นคืนกลับมา เขาจึงได้เริ่มออกเดินทางเพื่อตามล่ามันผู้นั้น ผู้ที่พรากทุกสิ่งไปจากเขา . ..

ข้อมูลเบื้องต้น

ดาวกาเดเนียร์

กาเดเนียร์ ดาวเคราะห์สีเขียวขจีที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคลึงกับโลก อยู่ในกาแล็กซีทางช้างเผือก ในระบบสุริยะที่มีชื่อว่า คลอแซ็ค มีขนาดเท่ากับดาวยูเรนัส มีดาวบริวารคล้ายดวงจันทร์สองดวง ผืนดินและผืนน้ำแบ่งเป็น 2:2 ส่วนอย่างพอดี มีดินแดนอยู่ทั้งหมดสองดินแดน คือ ดินแดนแห่งชีวิต และ ดินแดนแห่งหมอก ที่ยังไม่ถูกสำรวจเลยสักก้าวเดียว ภายในโลกนั้นเต็มไปด้วยพลังงานประหลาดที่ถูกเรียกว่า อนูแห่งมนตรา ไม่ว่าจะในผืนดิน ผืนน้ำ ต้นไม้ ใบหญ้า หรือสิ่งมีชีวิตก็มีอนูแห่งมนตราทั้งสิ้น และอนูแห่งมนตราเองก็เป็นที่มาของสิ่งที่เรียกว่า เวทมนตร์

ดินแดนแห่งชีวิต แผ่นดินขนาดใหญ่ที่อยู่ทางตะวันออกของกาเดเนียร์ มีรูปร่างเป็นสามเหลี่ยม แบ่งเป็นสี่ส่วน คือ มุมซ้ายของสามเหลี่ยม มุมขวาของสามเหลี่ยม มุมบนของสามเหลี่ยม และส่วนกว้างของสามเหลี่ยมที่ยังเป็นความลับ และไม่ได้รับการสำรวจเช่นดินแดนแห่งหมอก

ซึ่งทั้ง 3  ส่วนนั้นแบ่งเป็นสามทวีปได้ดังนี้

มุมซ้าย ไกอาทวีป ถูกปกครองโดยเผ่ามนุษย์ที่หลงเหลือจากครั้งอดีตกาล

มุมขวา ทวีปแสงจันทร์ ถูกปกครองโดยเผ่าปีศาจที่หลงเหลือจากครั้งอดีตกาล

มุมบน ทวีปแสงสุริยันต์ ถูกปกครองโดยเผ่าปีกปักษาที่หลงเหลือจากครั้งอดีตกาล

เผ่าพันธุ์ในกาเดเนียร์

ในอดีต เมื่อราว 3,000 ปีก่อน ได้มีเผ่าพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในกาเดเนียร์มากถึง 12 เผ่าพันธุ์ แต่เพราะสงครามแย่งชิงดินแดน และความต้องเป็นใหญ่เหนือทุกเผ่าพันธุ์ ทำให้หลายๆ เผ่าต่างถูกล้างบางจนสิ้น เหลือเพียงแค่ 3 เผ่าพันธุ์นี้เท่านั้น อันได้แก่

เผ่าแรก เผ่าปีกปักษา มีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ทุกประการ ต่างออกไปที่ด้านหลังจะมีปีกที่คล้ายคลึงกับปีกของนกนานาพันธุ์ สามารถใช้ได้จริง ทำให้เผ่าพันธุ์นี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เผ่าในอดีตกาลที่สามารถโบยบินได้อย่างอิสระ เป็นหนึ่งในสามเผ่าพันธุ์ที่มีอนูแห่งมนตราแบบพิเศษ พวกเขาเรียกอนูนั้นว่า อนูแสงอรุณ อันมาจากแสงของเวทที่สร้างจากอนูนี้มีสีคล้ายแสงของดวงอาทิตย์ยามแรกอรุณ ซึ่งอนูแสงอรุณนั้นสามารถถ่ายทอดทางสายเลือดได้ แม้ว่าจะไม่ใช่เผ่าพันธุ์ปีกปักษาบริสุทธิ์ก็ตาม

เผ่าที่สอง เผ่ามนุษย์ เผ่าพันธุ์ต้นแบบของทุกเผ่าพันธุ์ แต่กลับถูกสร้างขึ้นมาหลังจากเผ่าปีกปักษา เป็นเผ่าพันธุ์ที่เรียกได้ว่าอ่อนแอที่สุดหากเทียบจากพลังกาย แต่ความสามารถที่มนุษย์มีมากคือ ความขี้สงสัย พรแสวง และอัจฉริยะภาพด้านมนตรา ทำให้มนุษย์คือเผ่าพันธุ์ที่กุมอำนาจด้านเวทมนตร์มากที่สุดในอดีตกาล ทั้งร่างกายของพวกเขายังพิเศษมาก เพราะถึงแม้จะได้รับอนูมนตราใหม่ๆ ก็ไม่มีปฏิกิริยาปฏิเสธเหมือนเผ่าอื่นๆ

เผ่าสุดท้าย เผ่าปีศาจ เผ่าที่สองในสามที่มีอนูแห่งมนตราแบบพิเศษและเป็นเผ่าเดียวที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์จนไม่สามารถแบ่งแยกได้ชัดเจน จนกว่าพวกเขาจะดึงอนูพิเศษในร่างกายออกมาใช้ หนึ่งในสามอนูพิเศษ นามเรียกขานคือ อนูปีศาจ อันมาจากอนูที่เปลี่ยนรูปร่างพวกเขาให้เหมือนปีศาจ และความตายที่ผสมปนเปอยู่ในอนู เมื่อใช้อนูปีศาจ นัยตาของพวกเขาจะเปลี่ยน เขา ปีก และหาง จะงอกออกมา ซึ่งหากปลดปล่อยมากไปร่างทั้งร่างจะเป็นปีศาจแบบต่างๆ ซึ่งปีก เขา และหางที่ปีศาจมีจะต่างออกไปในแต่ละคน

หมายเหตุ

ปีกของเผ่าปักษา และ ปีก เขา และหางของเผ่าปีศาจ สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้

อาณาจักรทั้งหมดในไกอาทวีป

ไกอาทวีปมีพื้นเป็นสี่เหลี่ยมรูปว่าวเช่นเดียวกับทวีปอื่นๆ แบ่งอาณาจักรออกเป็น 8 อาณาจักร แบ่งเป็นอาณาจักรหลักและอาณาจักรรองอย่างละ 4 อาณาจักร โดยจะมีอาณาจักรหลักล้อมรอบอาณาจักรรอง ดังนี้

(หลัก) อาณาจักรนาทารัน มีพื้นที่ติดกับเทวาทวีปทวีปที่มุมขวาของสามเหลี่ยม

(หลัก) อาณาจักรอวาลอน มีพื้นที่ติดกับอสุราทวีปที่มุมบนของสามเหลี่ยม

(หลัก) อาณาจักรบริเทน มีพื้นที่ติดกับอาณาจักรนาทารัน

(หลัก) อาณาจักรยูโทเปีย มีพื้นที่ติดกับอาณาจักรอวาลอน

(รอง) อาณาจักรวาทาร่า มีพื้นที่ติดกับอาณาจักรนาทารัน

(รอง) อาณาจักรฟรอรัน มีพื้นที่ติดกับอาณาจักรบริเทน

(รอง) อาณาจักรฮาม่า มีพื้นที่ติดกับอาณาจักรอวาลอน

(รอง) อาณาจักรราเนียร์ มีพื้นติดกับอาณาจักรยูโทเปีย

ธาตุ และระดับขั้น

ธาตุทางเวทมนตร์ภายในกาเดเนียร์นั้น มี 8 ธาตุ ได้แก่

ดิน น้ำ ลม ไฟ สายฟ้า พืช แสง มืด

แต่ก็อาจจะมีธาตุพิเศษที่เกิดขึ้นมาจากการผสมผสานเวทมนตร์ หรือการผสมธาตุภายในตัวให้กลายเป็นธาตุใหม่ตั้งแต่กำเนิด ตัวอย่างเช่น ธาตุน้ำแข็ง แต่การผสมธาตุภายในตัวนั้นค่อนข้างเป็นอะไรที่เสี่ยงไม่น้อย หากผิดพลาดก็จะทำให้อนูเวทภายในตัวสูญสลายไปและกลายเป็นคนที่ไร้ซึ่งพลังเวทได้

ระดับขั้นของพลังเวทย์ มนุษย์ได้แบ่งระดับขั้นของพลังเวทที่มีในตัวออกเป็น 13 ขั้น แบ่งได้ดังนี้

จอมเวทระดับ 1

จอมเวทระดับ 2

จอมเวทระดับ 3

จอมเวทระดับ 4

จอมเวทระดับ 5

จอมเวทระดับ 6

จอมเวทระดับ 7

จอมเวทระดับ 8

จอมเวทระดับ 9

จอมเวทระดับ 10

เจ้าแห่งมนตรา

จอมปราชญ์

จักรพรรดิเวทมนตร์

ระดับพวกนี้แสดงระดับขั้นขีดกำจัดพลังเวทของมนุษย์ที่ยังไม่สามารถตีค่าเป็นตัวเลขได้ แต่จะแสดงอกมาในรูปแบบของอักขระต่างๆ ที่ปรากฏที่แขน ขา หรือบางส่วนของร่างกาย

แต่ไม่เพียงมนุษย์เท่านั้น เผ่าปีศาจเองก็ได้จำแนกพลังเวทจากอนูปีศาจเป็นระดับขั้นเช่นเดียวกันมนุษย์เช่นกัน โดยจะแบ่งออกได้เป็น 7 ระดับ ดังนี้

ผู้ใช้อนูปีศาจ

ปีศาจระดับต่ำ

ปีศาจระดับกลาง

ปีศาจระดับสูง

จักรพรรดิปีศาจ

ราชันย์อสูร

เจ้าแห่งราชันย์

ซึ่งยิ่งปลดปล่อยพลังออกมามากเท่าไหร่ ร่างกายและสภาพจิตใจก็จะยิ่งเปลี่ยนไป เพราะฉะนั้นแม้แต่ปีศาจอาวุโสที่มีระดับพลังถึงเจ้าแห่งราชันย์ก็ไม่อาจหาญกล้าจะดึงอนูปีศาจออกมาใช้ทั้งหมด

เวทมนตร์

แม้ว่าอนูเวทมนตร์จะมีอยู่ในทุกสิ่งภายในดาวกาเดเนียร์ หากแต่ว่าไม่ใช่ว่าเพียงเกิดมาก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้เลย การที่คนใดคนหนึ่ง จากเผ่าใดเผ่าหนึ่งจะใช้เวทมนตร์ได้ พวกเขาต้องรอให้พลังเวทตื่นเสียก่อน พวกเขาเรียกสิ่งนั้นว่าการตื่นของพลังเวทที่จะเกิดขึ้นเมื่ออายุ 5 ปี โดยจะรู้ได้เมื่อมีอักขระปรากฏขึ้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ส่วนมากจะขึ้นที่แขนข้างใดข้างหนึ่ง หรือถูกบังคับการตื่นจากผู้มีพลังเวทมหาศาล

การใช้เวทมนตร์แบบปกติ คือการร่ายเวทตามคำกล่าวที่สืบต่อจากโบราณเพื่อเรียกใช้เวทจากวงเวท ข้อดีของการร่ายเวททั้งบทคืออานุภาพที่รุนแรง แต่ข้อเสียคือ เวลาในการร่ายอาจจะสั้นหรือยาว ขึ้นอยู่กับบทเวทนั้นๆ

การใช้เวทมนตร์แบบไร้บทร่าย คือการใช้เวทแบบไม่มีบทร่าย เกิดจากการฝึกฝนและจดจำการแปรเปลี่ยนของอนูในร่างหรืออนูรอบตัวที่กลายเป็นเวทจนขึ้นใจ ข้อดีคือประหยัดเวลาในการร่ายได้ แต่ข้อเสียคือ อานุภาพที่จะเบาบางลงเหลือเพียง 3 ใน 4 ส่วน

การใช้เวทแบบเฉพาะตัว (Unique Magic) คือการใช้เวทแบบเฉพาะตัว ไม่มีในตำรา เกิดจากการสร้างสรรค์ของจอมเวทที่มีความสามารถ เกิดจากการฝึกฝน และถ่ายทอดทางสายเลือด ส่วนมากแล้วจะจอมเวทระดับสูงจะมีเวทเฉพาะตัวกัน มากสุดคือสองแบบในหนึ่งคน จะรู้ได้ว่าคนนั้นมีเวทเฉพาะแบบไหน สามารถสังเกตได้ที่หลังมือข้างใดข้างหนึ่ง

ด้วยความที่่ว่า เรื่องนี้นั้นมันก็เป็นหนึ่งในจักรวาล The Endless Tales

จากที่ผมเคยลงเรื่องนี้ในเด็กดี ก็เลยตัดสินใจย้ายมาลงที่นี่ให้หมด เพื่อที่ทุกคนจะได้หาง่ายๆ