รายละเอียด
กลีบโบตั๋นร่วงโรย ท้องฟ้าดาวกระจ่าง เสียงนกร้องบรรเลงเพลงไพเราะ บรรยากาศชวนให้หลงไหล พระราชวงษ์ช่างงดงามนัก มีหญิงสาวและชายผู้งดงามยืนเคียงข้างกันและโอบกอดกันในคำคืนที่แสงจันทร์จันเป็นใจ
" ข้าและเจ้าจะรักกันตลอดทุกชาติทุกกาลเวลาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นช่วงเวลานี้จะจดจำในหัวใจของข้า "
เสียงของผู้ชายที่มีความละมุน มีรูปร่างสง่างามดุจหงษ์ ผิวกายดุจหิมะ สีปากราวดอกโบตั๋นอ่อน กลิ่นกายหอมราวน้ำผึ้งที่หอมหวานชวนให้หลง หญิงสาวใดที่ได้เห็นต้องลุ่มหลงอย่างกับผึ้งที่กำลังตอมดอกไม้ ความรักของหญิงสาวและเด็กชายสองคนนี้เป็นเรื่องเล่าขาลมาอย่างยาวนาน แต่เรื่องเล่าก็มีอีกเรื่องเกี่ยวกับความรักของทั้งคู่อีกว่าเป็นการรักแบบต่างชนชั้นจนต้องทำให้เกิดการพลากจากกัน
และในคืนที่ดอกโบตั๋ยกลายเป็นสีเลือด อาการหนาวเย็นหิมะตกเด็กชายและหญิงสาวถูกแยกจากกัน เด็กหญิงสาวถูกจับมาที่แท่นประหารและในคืนนั้นเสด็จแม่และพระสนมรองที่ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นพระชายาขององค์รัชทายาทเพื่อให้ชื่อเสียงบรรดาศักดิ์ของพระองค์มีแต่คนนับถือเพิ่มขึ้นจึงได้สั่งประหารหญิงสาวผู้นั้น แต่ว่าในคืนนั้นเด็กหญิงสาวที่กำลังจะถูกประหารได้สาปแช่งผู้คนราชวงษ์ซ่ง
" ข้าขอสาปแช่งให้พวกเจ้าต้องทุกข์ทรมารกับสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำกับข้า พวกเจ้าทุกคนต้องชดใช้ทุกอย่างของข้าคืนไม่มีวันจบ "
หลังจากหญิงสาวได้สาปแช่งแล้ว เด็กหญิงผู้นั้นก็ได้ถูกประหารเป็นที่เรียบร้อย ชุดดอกโบตั๋นที่เธอสวมใส่ ได้ถูกเลือดที่สีแดงฉาดไหลซึมจนท่วมชุด มันคล้ายกับความแค้นที่รอวันเอาคืน
หิมมะทั่วราชวังได้กลายเป็นสีแดงฉาดจนน่ากลัว และในทุกๆคืนที่ดอกโบตั๋นสีเลือดได้บานสะพรั่ง หิมะก็จะกลายเป็นสีเลือดไปตลอดกาล ณ ตอนนี้สถานที่นั้นได้ปิดตายแล้ว และได้มีคำทำนายไว้ว่า
"เมื่อใดที่เจ้าของที่แท้จริงกลับมาเพื่อทวงของคืน ทุกๆอย่างจะกลับสู่กาลเวลาเดิมพร้อมความสงบสุข "
รีวิวผู้อ่าน
0 รีวิว
จัดเรียงตาม
อ่านบนแอปฯ Fictionlog
ดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อการอ่านที่ดียิ่งขึ้น