รายละเอียด
(Kibin’s secret journal : The Marvel of The Creator God )
บันทึกลับของ KIBIN : อภินิหารเทพปฐมภพ ภาคเทพปฐมภพ ตอนไข่มุกมังกรศิลา
==========================
ณ โลกใบสีน้ำเงิน ในจักรวาลที่ 9 เอกสุริยะภพ ที่ทั่วทั้งโลกกำลังเกิดการระบาดของโรคไวรัสอย่างต่อเนื่อง เริ่มมีผู้ป่วยหลายคนล้มตาย ประเทศมหาอำนาจหลายประเทศเริ่มเป็นกังกล
ในโลกที่เราท่านยังคงใช้เวลาชีวิตอยู่ในสงครามต่างสายพันธุ์นี้...KIBIN ขอนำทุกท่านไม่ว่าจะอยู่แห่งใดในโลกสีน้ำเงินใบนี้ ได้รับรู้เรื่องราวในอีกแปดภพจักรวาล ในบันทึกของ KIBIN
.....................................
“มหาเทพปฐมภพที่กำเนิดจากความว่างเปล่า รู้ว่าในกาลต่อไปข้างหน้า หลังมหาเทพปฐมภพกลับสู่ความว่างเปล่า จักรวาลทั้ง 9 จะประสบกับมหัตภัยครั้งร้ายแรง ที่จะทำลายไปทั้ง 9 จักรวาล มหาเทพปฐมภพจึงเหลือ“ดวงจุติอวตาร”เอาไว้เพื่อกอบกู้จักรวาลทั้ง 9 จากมหัตภัย โดยให้กำเนิดเทพหยินหยางเพื่อให้คอยช่วยเหลือดวงจุติอวตารนั้น”
.....................................
“ เทพปฐมภพเมื่อได้ให้กำเนิด 9 จักรวาล และให้กำเนิดเทพหยินหยางแล้ว ก็แยกกายออกเป็น
“ ผลึกฟ้านิรันตร ” อันเป็นตัวแทนของดวงหทัยอันเป็นอมตะ
“ เกราะภูษาปีกสวรร ค์” อันเป็นตัวแทนของวรกายอันแข็งแกร่ง
“ คฑาเทพหยกเย็น ” อันเป็นตัวแทนของหัตถ์ซ้ายที่ก่อกำเนิดสรรพสิ่ง
“ ดาบเพลิงโลกัณฑ์บรรลัย ” อันเป็นตัวแทนของหัตถ์ขวาที่ทำลายสรรพสิ่ง
“ ศรเคลื่อนปรภูมิ ” อันเป็นตัวแทนของบาทแห่งการเปลี่ยนและกำหนดชะตาชีวิต
“ดวงจุติอวตาร” อันเป็นตัวแทนของความหวังที่จะกอบกู้จักรวาลทั้งเก้าจากมหัตภัย
สุดท้าย...เทพปฐมภพก็กลับสู่ความว่างเปล่า...อีกครั้ง
.....................................
“เทพหยินหยางที่มหาเทพปฐมภพให้กำเนิด องค์หนึ่งเป็นเทพธิดากายขาวดุจหยก เรียกว่า “เทพธิดาหยกขาว ” เป็นเทพแห่งการสรรค์สร้าง อีกองค์หนึ่งเป็นเทพมารกายดำดุจนิล เรียกว่า “เทพอสูรกาฬ” เป็นเทพแห่งการทำลายล้าง แต่ด้วยธาตุก่อกำเนิดที่แตกต่างกัน เทพหยินหยางกลับต่อสู้กันเกิดเป็นสงครามเทพหลายหมื่นปี
ก่อนศัสตราเทพและดวงจุติอวตารจะกระจายล่องลอยไปในจักรวาลทั้งเก้า เทพธิดาหยกขาวได้ครอบครอง “ผลึกฟ้านิรันตร” ส่วนเทพอสูรกาฬได้ครอบครอง “ศรเคลื่อนปรภูมิ” ในการต่อสู้ของเทพหยินหยางต่างเทพต่างไม่สามารถเอาชัยกันได้ เทพธิดาหยกขาวจึงใช้ “ ผลึกฟ้านิรันตร ” ผนึกดวงจิตของเทพอสูรกาฬไว้ใน“ผลึกฟ้านิรันตร” และนำไปเก็บรักษาไว้ในโลกแดนฟ้าเทอมินัสที่อยู่ในจักรวาลที่ 6 แต่ศรเคลื่อนปรภูมิได้นำพาดวงจิตของเทพอสูรกาฬหนีไปอยู่ในโลกแดนฟ้าไซเบอร์ตรอนในจักรวาลที่ 3 ”
“ส่วนดวงจุติอวตารของมหาเทพปฐมภพ ก็ไปจุติในโลกที่เรียกว่า แดนฟ้าเมฆินทร์ ในจักรวาลที่ 9 พร้อมกับเกราะภูษาปีกสวรรค์ ที่ไปรวมร่างกับมังกรศิลาโบราณ จนกลายเป็นมังกรฟ้าสวรรค์ และได้คายไข่มุกมังกรทิ้งไว้ 5 ลูก ที่ก่อความวุ่นวายไปทั่วแดนฟ้าเมฆินทร์ ก่อนโผบินหายไปในสวรรค์บนโลกแห่งนั้น ”
.....................................
เชิญทุกท่านติดตามเรื่องราวในบันทึกลับของKIBIN ...ด้วยจิตคารวะ
...KIBIN...
24/03/2020
โลกใบสีน้ำเงิน
1. ภาคเทพปฐมภพ ตอนไข่มุกมังกรศิลาโบราณ
(เกิดบนโลกแดนฟ้าเมฆินทร์ จักรวาลที่ 9 ที่เป็นเอกสุริยะภพ)
มังกรศิลาโบราณที่เป็นมังกรฟ้าที่หนีลงมาท่องเที่ยวในโลกมนุษย์ แล้วเผลอนอนหลับไปนานหมื่นปี จนร่างกลายเป็นก้อนหินศิลา
ต่อมาจอมช่างลู่ไป๋ที่เป็นบรรพบุรุษของป้อมปราการยุทธ์มังกรบิน อุทิศเวลาสิบปี สลักก้อนหินศิลา เป็นมังกรศิลาที่มีเศียร ลำตัว ดวงตา กรงเล็บ ยกเว้นส่วนปีกมังกรฟ้า กลับสลักไม่สำเร็จ ไม่สามารถคืนร่างเป็นมังกรฟ้าได้ แต่เมื่อเกราะภูษาปีกสวรรค์รวมร่างกับมังกรศิลาโบราณ ทำให้มังกรศิลาโบราณมีชีวิตและบินกลับสวรรค์ไป
ก่อนไปได้คายไข่มุกมังกรออกมา 5 ลูก เรียกว่า ไข่มุกมังกรศิลาโบราณ ที่มีฤทธิ์ 1.ต่อต้าน/ควบคุมไฟ 2.ต่อต้าน/สลายพิษ 3.ควบคุมลม 4.ควบคุม/ต้านความเย็น 5.แสง(หายตัว) ทำให้โลกแดนฟ้าเมฆินทร์ปั่นป่วน
ต่อมาดวงจิตเทพปฐมภพอวตารมาเกิดในโลกใบนี้ เป็นมนุษย์ ที่ซื่อสัตย์ มั่นคง เที่ยงธรรม ที่ต้องต่อสู้กับผู้ดีจอมปลอม จอมมาร มารพิษ จอมเวท ภูตพราย ชนเผ่าลึกลับ เงื่อนงำต่างๆ ไข่มุกมังกรศิลา 5 ลูก
จุดเด่นของเรื่องจะเน้นโครงเรื่องที่ใหญ่ มีเงื่อนงำ มีตัวเด่นๆ ออกมาจะแย่งซีนพระเอกเยอะ
(เรื่องนี้ผู้เขียนคุมพลังสเกลให้ต่ำกว่าภาคอื่น อาศัยผูกเรื่องให้ซับซ้อน ของวิเศษ พิษสยองนานาชนิด(พอได้กรี้ดเป็นระยะๆ) พยายามสร้างให้มีเหตุผลรองรับ ไม่ไร้สาระลวงโลกจนเกินไป)
2. ภาคเทพธิดาหยกขาว ตอนจักรวรรดิเทอมินอลที่ 21
(เกิดในโลกแดนฟ้าเทอมินัส ในจักรวาลที่ 5 ที่เป็นทวิสุริยะภพ)
ซึ่งภาคนี้จะเป็นดินแดนเทพนิยาย ทั้งพวกยักษ์ไซคลอปส์ อมนุษย์ มังกร แดนเทพสมุทร ใครว่าเก่งตัวเอกของเราเก่งกว่าเพราะได้เปรียบ 1X2)
เริ่มที่ฉากต่อสู้ของเทพธิดาหยกขาวและเทพอสูรกาฬ
เทพธิดาหยกขาวอาศัยจังหวะที่เทพอสูรกาฬ เผลอดึงดูดดวงจิตธาตุกักไว้ในผลึกฟ้านิรันตร
แล้วนำไปเก็บไว้ในโลกมนุษย์ ในชั้นใต้ดินของจักรวรรดิเทอมินอล และมอบพลังบางส่วนให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ไว้ช่วยพิทักษ์ผลึกฟ้านิรันตรไว้
ในภาคนี้จะมีการสืบทอดสายเลือดของเทพธิดาหยกที่บริสุทธิ์ตลอดกาล ก็คือ การอวตาร ไปเกิดใหม่ (เหมือนพระธิเบต) เมื่ออายุครับ 20 ปี ก็จะกลับมาปกครองจักรวรรดิเทอมินอลอีกครั้ง เป็นเช่นนี้วนเวียนมาจนมาถึงจักรวรรดิเทอมินอลที่ 21 ในภาคนี้พอดี
โดยภาคนี้เทพธิดาหยกขาวอวตารไปเกิดในเผ่าพันธุ์ที่กลายร่างได้ และมีดวงจิตดวงที่2 มาอาศัยในร่าง(ในผลึกฟ้านิรันตร) แอบค่อยช่วยเหลือ ทำให้เทพธิดาหยกขาว เมื่อจำเป็นสามารถกลายร่างเป็นบุรุษได้ ส่วนเทพอสูรกาฬของเราหายสาญสูญวาร์ปไปอยู่ในโลกแดนฟ้าไซเบอร์ตรอน จักรวาลที่ 3 ก่อนที่จะ...
3. ภาคเทพอสูรกาฬ ตอนเทพจักรกลสงคราม
(เกิดในโลกแเดนฟ้าไซเบอร์ตรอน จักรวาลที่ 3 เป็นตรีสุริยะภพ)
ภาคนี้เกิดบนโลกอนาคตที่มีดาวหลายดวงอยู่ใกล้กัน จึงมีหลายเผ่าพันธุ์ทั้ง แดร็กคิวล่า จักรกลสงคราม มนุษย์ต่างดาว มนุษย์พลังพิเศษ หุ่นยนต์ยักษ์โลกอนาคต
ดวงจิตเทพอสูรกาฬ มาอยู่ในจีหลง สมาชิกของแก๊ง CDG (แก๊งมังกรดำ) ที่ถูกสะกดวิญญาณไปชั่วนิรันทร์ แต่รอดมาได้ ภายหลังเชื่อมต่อกับ “ดาบเพลิงโลกัณฑ์บรรลัย” ภาคนี้พระเอกเรา มีผู้ช่วย(CDG) ไม่งั้นเอาตัวร้ายไม่อยู่ เพราต้องสู้กับตัวร้ายที่มีเทคโนโลยี โคตรแดร็กคิวล่า จักรกลสงคราม มนุษย์ต่างดาว มนุษย์พลังพิเศษ หุ่นยนต์ยักษ์โลกอนาคต พระเอกจอมขี้โกงของเรา อาศัยศรเคลื่อนปรภูมิ” (ลูกธนูสีเงินที่หาง(มีกระดิ่งที่ไม่ดัง))ที่เทพอสูรกาฬ เอาไว้เหยียบ(เหมือนสเก็ตบอร์ด) เหาะลอยได้ และวาร์ป (เมื่อกระดิ่งดัง) ข้ามโลกมิติต่างๆได้เมื่อถึงเวลาจำเป็นมาถึง
ภาค...... ตอนมหาอสูรบรรพกาล
(ภาคที่ยังไม่ได้เขียน)
“คฑาเทพหยกเย็น” ไปอยู่กับมหาอสูรบรรพกาล ในแดนลึกลับ ก่อนจะตามไปฆ่ามังกรฟ้าที่มี“เกราะภูษาปีกสวรรค์” และพยายามรวบรวมศัสตราเทพทั้งหมดและฆ่าทุกคนที่จะเป็นภัยต่อการคงอยู่ของตน
…………………………………………..