รายละเอียด
ปฐมบท
ห้วงนภายามรัตติกาล
ณ แดนลอยฟ้าโบราณสถานที่ผุพังแห่งหนึ่ง แม้สถานที่แห่งนี้จะเหมือนดั่งดินแดนที่ตายไปแล้วมานานนับหมื่นปี แต่ถึงอย่างนั้นบรรยากาศโดยรอบกลับแผ่กลิ่นอายอันน่าพิศวงออกมาอย่างเจือจางแม้กระทั่งผืนดินก็ยังมีกลิ่นอายที่น่าประหลาด
ทว่าเวลานี้กลับปรากฏคนจำนวนนับร้อยที่อยู่ ณ โบราณสถานรกร้างของแดนลอยฟ้าแห่งนี้ จากการแต่งกายและบุคลิกของแต่ละคนที่อยู่ที่นี่สามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นยอดฝีมือหรือจอมมหาเวทผู้มีพลังสะท้านฟ้าสะเทือนดิน บางคนยังเป็นถึงผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนที่ตนปกครองเสียด้วยซ้ำ
แต่เวลานี้บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่ว่ามานั้นกำลังยืนห้อมล้อมสิ่งปลูกสร้างรูปร่างประหลาดชนิดหนึ่งที่เหมือนเสาศิลาทรงเหลี่ยมยอดแหลมผิวสีดำที่ดูเก่าคร่ำครึแต่สูงถึงสามสิบเมตรกว้างถึงสิบเมตร
"ท่านไคอา ใช่เจ้าเสาประหลาดนี่จริงๆรึ?" สมาชิกในกลุ่มผู้หนึ่งเอ่ยถามชายผมดำที่ยืนอยู่หน้าสุดของกลุ่มและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้นำสำรวจสถานที่นี้ด้วยตัวเองด้วย
"ไม่ผิด..." ไคอากล่าวเสียงเรียบนิ่งพลางสะบัดมือคราหนึ่ง ปรากฏสิ่งของชิ้นหนึ่งออกมาจากความว่างเปล่าเพื่อให้ทุกคนได้เห็น เป็นผลึกสีม่วงชิ้นหนึ่งขนาดเท่ากำมือที่เปล่งแสงประกายจ้า "จากสิ่งที่เห็น...พวกท่านน่าจะเข้าใจใช่หรือไม่?"
"!!!"
ทุกคนถึงกับทำหน้าตาแตกตื่นเมื่อได้เห็นผลึกม่วงเปล่งประกายแสงจ้าบนมือของไคอา ผลึกดังกล่าวมีชื่อว่า 'ผลึกเวทมนตร์ค้นหาสมบัติ' มันเป็นของล้ำค่าที่มีครอบครองเฉพาะในแดนศักดิ์สิทธิ์หรือในอาณาจักรใหญ่ที่ทรงอำนาจเท่านั้น มูลค่าของมันนับเป็นสมบัติที่ล้ำค่าชนิดหนึ่ง
หากใครได้ถือครอง ก็นับว่าสามารถค้นหาขุมทรัพย์ล้ำค่าที่นอนหลับใหลอยู่ทั่วทุกผืนแผ่นดินของโลกใบนี้เพียงแค่ผลึกก้อนนี้ต้องเปล่งแสงออกมาเพียงเท่านั้น
ทว่าเวลานี้เจ้าผลึกดังกล่าวกำลังแสดงปฏิกิริยาต่อหน้าเสาศิลาสีดำที่ดูไร้พิษสงใดๆ และแสงที่ประกายออกมาจากผลึก เรียกได้ว่าเป็นที่น่าทึ่งอย่างที่สุดสำหรับไคอา เพราะเขาที่เป็นผู้ถือครองผลึกไม่เคยพบเห็นแสงที่เปล่งสว่างขนาดนี้จากผลึกมาก่อนในชีวิต
ปฏิกิริยาของผลึกที่ตอบสนองรุนแรงขนาดนี้มันมีสิ่งใดซ่อนอยู่ใต้เสาศิลาแห่งนี้กันแน่?
"นี่หมายความว่า...จะต้องมีสุดยอดสมบัติซ่อนอยู่ในที่แห่งนี้เป็นแน่!" ชายในกลุ่มคนหนึ่งพูดอย่างไม่อาจที่จะระงับความตื่นเต้นไว้ได้
"โฮะๆ...คาดว่าน่าจะล้ำค่ามหาศาลจนไม่อาจประเมินได้เสียด้วย" ชายชราผมยาวกับเคราสีขาวโพลนผู้หนึ่งหัวเราะก่อนจะเดินเข้ามาพูดกับไคอา "ท่านไคอา ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ค้นพบสถานที่แห่งนี้เป็นคนแรก ไฉนท่านถึงได้บอกกล่าวกับพวกเราทุกคนให้รับรู้ด้วย? ท่านไม่คิดจะครอบครองไว้คนเดียวหรอกหรือ?"
"เฮอะ..." ไคอาแค่นลมหายใจเมื่อได้ยินวาจานั้น "ท่านผู้เฒ่าศักดิ์สิทธิ์ จากสิ่งที่ท่านกล่าวมันก็ไม่ผิดหรอก เดิมทีข้าเป็นผู้ค้นพบสมบัติมันก็ต้องเป็นของข้าอยู่แล้ว ทว่าสถานที่แห่งนี้มันไม่ได้คิดที่จะให้ข้าได้ครอบครองสมบัติลึกลับที่ข้าค้นพบได้ง่ายๆน่ะสิ"
ทันทีที่ที่กล่าวจบ คลื่นพลังเวทรอบตัวของไคอาเริ่มพุ่งพล่านจนบรรยากาศโดยรอบบิดเบี้ยวอย่างรุนแรง เขาบีบอัดพลังเวทอันน่าสะพรึงให้เป็นลูกบอลสีม่วงไว้ที่่ฝ่ามือก่อนจะยิงมันออกไปยังเสาศิลาดังกล่าวอย่างเต็มแรง!
ตูมมมมมม!!!
เสียงระเบิดดังก้องสะท้านรูหู ผืนดินทั่วแดนลอยฟ้าถึงกับสั่นไหวอยู่ชั่วขณะ แต่ผลลัพธ์จากการโจมตีนั้นทำเอาทุกคนที่ได้เห็นถึงกับเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
เสาศิลาที่ถูกไคอาโจมตีเข้าไปนั้นกลับไม่ปรากฏร่องรอยความเสียหายใดๆเลยแม้แต่รอยขีดข่วนเพียงนิดก็ไม่มีให้เห็น!
"ปะ...เป็นเสาศิลาที่แข็งแกร่งอะไรขนาดนี้!"
"ถึงขนาดรับพลังของท่านไคอาได้ มันน่าจะแข็งกว่าหินไวท์เฮมเป็นแน่!"
"นี่ยิ่งสามารถที่จะยืนยันได้ว่าในนั้นมีของล้ำค่าที่ยากประเมินค่าซ่อนอยู่แน่ การป้องกันถึงได้แน่นหนาขนาดนี้!"
ไคอาลดมือลงก่อนจะหันมากล่าวกับชายชราคนเดิมอย่างเรียบเฉย "คราวนี้ท่านคงได้เห็นแล้ว ว่าแค่ข้าคนเดียวย่อมทำไม่สำเร็จ"
"นั่นคือเหตุผลที่ท่านขอยืมกำลังของพวกเราอย่างนั้น อืม..." ชายชราผงกศีรษะเข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าว แววตาชราหรี่ลงเล็กน้อยอย่างมีเลศนัย "เรื่องสมบัติที่ซ่อนอยู่เอาเป็นว่าพวกเราค่อยมาตกลงกันตอนที่ทำลายมันได้ก็แล้วกัน ท่านว่าอย่างไร?"
ไคอานิ่งงันไปชั่วครู่ เขาผินหน้ากลับพร้อมมุมปากเผยรอยยิ้มหยันเย็นอย่างเงียบๆ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไร แต่เมื่อต้องพึ่งกำลังของชายชราคนนั้นเขาจำใจตอบกลับ "ก็ตกลงตามนั้น"
หลังจากได้ข้อสรุปดังกล่าวทุกๆคนเริ่มกระจายตัวออกห่างจากเสาศิลาไปประมาณห้าสิบเมตรเพื่อตั้งหลักเตรียมพร้อมในการรวบรวมพลังเวทโดยมีไคอาเป็นผู้นำหลักในการออกคำสั่ง
"ข้าขอความร่วมมือทุกๆคนใช้พลังออกมาให้เต็มที่เพื่อทำลายเสาศิลานี้ แล้วพวกเรามาดูกันว่าภายใต้เสาศิลามันมีสมบัติอะไรซ่อนอยู่กันแน่! เตรียมตัว!"
ครืนนน...
เพียงชั่วพริบตาขุมกำลังนับร้อยปลดปล่อยกระแสพลังเวทสะท้านฟ้าดินออกมาจนสายลมโดยรอบกลายเป็นเชี่ยวกรากราวพายุร้าย เมฆฟ้าที่มืดสนิทเริ่มแปรปวนราวกับจะก่อเกิดภัยพิบัติ ผืนปฐพีสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงเป็นวงกว้างดั่งแผ่นดินไหวแห่งหายนะภัย
"ลงมือ!"
สิ้นคำกล่าวของไคอา พลังเวทที่พรั่งพรูอย่างบ้าคลั่งของทุกๆคนถูกปลดปล่อยอย่างไม่เหนี่ยวรั้งเข้าใส่เสาศิลาแหลมสีดำต้นนั้นอย่างเต็มกำลัง!
ตูมมมมมมม!!!!
เสียงระเบิดดังกึกก้องกระจายไปทั่วแดนลอยฟ้า ทุกๆคนเริ่มกางม่านพลังเพื่อควบคุมจำกัดระยะความเสียหายให้อยู่แค่ในนั้น เพราะพลังดังกล่าวอานุภาพรุนแรงมากพอที่จะสามารถทำลายล้างอาณาจักรใหญ่ๆแห่งหนึ่งให้หายไปได้ภายในพริบตา แต่พลังของเหล่ายอดฝีมือที่รวบรวมกันกลับถูกใช้กับเจ้าเสาศิลาต้นนี้เพียงเท่านั้น!
สิ้นสุดการลงมือ ทุกคนต่างหยุดมือและรอดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างลุ้นระทึก การโจมตีนั้นเรียกได้ว่าเป็นภัยพิบัติขั้นร้ายแรงเลยก็ไม่ผิด ถ้าหากยังทำลายมันลงไม่ได้ก็นับว่าสิ่งปลูกสร้างบนดินแดนลอยฟ้าลึกลับแห่งนี้เป็นที่น่าหวาดกลัวจนเกินไปอย่างแท้จริง
และผลลัพธ์ที่อยู่ตรงหน้านั้นทำวงหน้าของทุกคนถึงกับถอดสี ดวงตาของพวกเขาแทบถลนออกจากเบ้าพร้อมกับปากที่อ้าจนขากรรไกรเกือบหลุด
แม้เศษดินเศษหินบนพื้นจะกระจายจนวุ่นวาย แต่เสาศิลาต้นนั้นกลับตั้งตระหง่านไร้ซึ่งความเสียหายใดๆโดยสิ้นเชิง!
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน!?"
"เสาประหลาดนี่มันคืออะไรกันแน่!? ทำไมมันแข็งแรงขนาดนี้!?"
"เป็นไปไม่ได้...บอกข้าทีว่าข้าไม่ได้ตาฝาดไป?"
เป็นผลลัพธ์ที่สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกๆคนอย่างแท้จริงๆไม่เว้นกระทั่งไคอาและชายชราผมขาวที่ตอนนี้นิ่งแข็งค้างอย่างโง่งมกับสิ่งที่ได้เห็น พลังเมื่อครู่ที่พวกเขาได้ปล่อยออกไปนั้นเรียกได้ว่าเค้นสิบในสิบส่วนอย่างแท้จริง แต่ถึงอย่างนั้นกลับไม่อาจสร้างได้แม้แต่รอยขีดข่วน!
"ดูเหมือนมันจะไม่ใช่แค่สมบัติธรรมดาเสียแล้ว..."ชายชรากล่าวเสียงต่ำ ใบหน้ามืดครึ้มลงทันตา "สิ่งปลูกสร้างประหลาดที่แข็งแกร่งขนาดรับพลังมหาศาลได้เยี่ยงนี้มีอยู่บนโลกด้วยรึ?"
แม้แต่ไคอาที่ยืนข้างๆชายชราเองก็แสดงสีหน้าที่ไม่แตกต่างกันมากนัก "ขนาดพวกเราลงแรงกันขนาดนี้ยังไม่ได้ผล...ดูท่าแค่นี้ยังไม่เพียงพอ..."
เปรี๊ยะ...
"!!!"
ไคอาชะงักคำเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ เสียงดังกล่าวนั้นดังพอให้ทุกๆคนที่กำลังตกตะลึงและพูดคุยกันอยู่ต่างเงียบลงทันควัน พวกเขามองไปยังที่มาของเสียงนั้น ทุกสายตาตกลงไปยังเสาศิลาต้นเดิมก็พบว่าตอนนี้มีรอยที่กำลังกำลังปริแตกปรากฏ!
"มันได้ผล...มันได้ผลแล้ว!"
ขณะที่ทุกคนกำลังโห่ร้องอย่างยินดีเมื่อได้เห็น มีเพียงแต่ไคอากับชายชราเท่านั้นที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ยินดีที่ได้เห็นรอยแตกนั้น แต่พวกเขากำลังแปลกใจ
เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีแม้กระทั่งรอยแตกให้เห็นบนตัวของเสาศิลาเลยเสียด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับมีปรากฏออกมา เหมือนกับว่ามันไม่ใช่ว่าพวกเขาทำลายมันจนเกิดความเสียหายได้
หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในเสาศิลานั้นกำลังปรากฏออกมาเสียมากกว่า!
เปรี๊ยะ!
เปรี๊ยะ!!
เปรี๊ยะ!!!
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเสาศิลาก็เริ่มเผยรอยแตกร้าวลุกลามเป็นรอยยาวอย่างบ้าคลั่ง จนในที่สุดมันก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ สิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเสาศิลาที่ปรากฏออกมา แท้จริงมันคือประกายแสงสีทองเจิดจรัสราวกับตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ลูกหนึ่ง แม้จะไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไรก็ตาม
ขณะที่ทุกคนจับจ้องกันอย่างตื่นตะลึงกับตัวตนของสมบัตินั้น สมบัติแสงลึกลับกลับดีดตัวเองทะยานพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทำเอาทุกคนที่ได้เห็นถึงกับเบิกตากว้างอย่างตื่นตกใจ
เพราะพวกเขาเห็นว่ามันกำลังจะหนี!
"ตามเจ้าแสงนั่นไปกันเร็ว!"
วู้มมมมม!!!
แต่แล้วขณะที่ทุกคนกำลังจะไล่ตามมันไปจู่ๆเจ้าก้อนแสงสีทองลึกลับกลับหยุดชะงักลง แสงนั้นค่อยๆขยายตัวอย่างผิดปกติ ขณะที่คนจำนวนกลุ่มหนึ่งกำลังสืบเข้าใกล้แสงลึกลับในไม่ช้า ไคอาพลันรู้ถึงลางสังหรณ์อันตรายได้ก็ร้องตะโกนออกมา
"นั่นมัน!? พวกเจ้าถอยออกมาเร็ว!!!"
วู้ววววว!!!
ลางสังหรณ์ของไคอาเป็นดังที่คาด แสงสีทองลูกนั้นเริ่มประกายรัศมีจ้าฉับพลันพร้อมกับปลดปล่อยกระสุนลำแสงร่วงโรยลงมาราวกับห่าฝนดาวตกอันบ้าคลั่งทำลายล้างทุกสรรพสิ่งในระยะสิบกิโลเมตร!
ตูมม!! ตูมม!! ตูมม!! ตูมม!! ตูมม!!
"อ๊ากกกกก!!!"
เสียงระเบิดกัมปนาทดังไปทั่วทุกหย่อมหญ้า แสงดาราโรยแห่งความพิโรธกวาดล้างสิ้นทุกสิ่ง เสียงกรีดร้องอันหวาดผวาดังกังวานไม่ขาดสาย ยอดคนจำนวนกว่าครึ่งล้วนเป็นต้องสังเวยชีพให้กับแสงแห่งความตายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง อานุภาพทำลายล้างน่าสะพรึงเสียแม้กระทั่งยอดฝีมืออย่างไคอากับชายชรายังไม่อาจทานรับมันตรงๆได้แต่หลบเลี่ยงอย่างทุลักทุเล
"เป็นพลังที่น่ากลัวอะไรขนาดนี้!?" ไคอากัดฟันกรอดขณะลอยตัวหลบหลีกไปมาอย่างปั่นป่วน หากเขาใช้พลังต้านรับตรงๆ จุดจบคงไม่ต่างจากคนตายเป็นแน่แท้
แสงดาราคลั่งจากแสงลึกลับดำเนินไปเพียงครึ่งนาทีเท่านั้น ในที่สุดมันก็สงบลงพร้อมกับทะยานพุ่งไปยังทิศหนึ่งด้วยความเร็วสูงสุด ความเร็วนี้ไม่มีใครสามารถที่จะตามทันได้เลยและพวกเขาก็ไม่คิดจะไล่ตามมันอีก
"ฮึ่ม...บัดซบ! มันหนีไปจนได้!" ชายชราพ่นลมสบถอย่างฉุนเฉียว
ความสงบเข้ามาเยือนในที่สุด ความเสียหายทุกหย่อมหญ้าที่เกิดขึ้น ณ ดินแดนลอยฟ้าแห่งนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกคับแค้นใจไม่น้อยกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เมื่อมองไปยังที่ตั้งเสาศิลาดำที่เคยตั้งอยู่ก็พบว่าข้างใต้ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่อีกนอกจากซากปรักหักพังกับเศษหินเศษดินที่แตกกระจายและเป็นหลุมลึกไปทั่วทุกแห่งหน
"อย่าบอกนะว่าเจ้าแสงบ้านั่นคือสมบัติที่ผลึกเวทมนตร์ของท่านจับได้?" ชายชราหันไปถามไคอาด้วยคิ้วที่ขมวด จากสีหน้าที่แสดงออกเขาดูไม่พอใจเป็นอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะนอกจากจะไม่ได้อะไรแล้วเขายังต้องสูญเสียกองกำลังที่นำมาไปบางส่วนด้วย ส่วนอีกหลายคนที่มีชีวิตรอดอยู่เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
"ไม่ผิดแน่...และข้ายังได้เห็นตัวตนของเจ้าแสงนั่นอยู่เนืองๆด้วย แม้จะไม่ชัดเจนมาก แต่ข้าว่าข้าคงมองไม่ผิดอย่างแน่นอน..."
คำพูดของไคอาสร้างความสงสัยและประหลาดใจให้กับทุกคนที่ได้ฟังอยู่ไม่น้อย ชายชรายิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมแล้วถามด้วยความใคร่รู้
"ที่ท่านเห็นมันคืออะไร?"
ไคอานิ่งงันไปชั่วครู่ สายตาจับจ้องนิ่งขึงไปยังที่ทิศทางดังกล่าวที่แสงสีทองลึกลับได้ทะยานหายลับไปตรงเส้นทางนั้น ปากของเขาค่อยๆกล่าวคำตอบออกมาอย่างบางเบา
"มันเป็นมนุษย์..."