รายละเอียด
ความฝัน..คือ..อะไร?
บางคนบอกว่าความฝันนั้นก็แค่ล้มตัวลงนอนก็ฝันแล้ว นั้นก็ถูก แต่....
ความฝันอีกรูปแบบนั้นคือความฝันที่คนเรายังไม่ได้นอนและยังจินตนาการ คิด วาดภาพขึ้นมาในสมอง และลงมือทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
แต่...บางกรณีนั้นความฝันบางอย่างก็ไม่ได้สวยหรูเหมือนกับในนิยายหรือในละคร เพราะเรื่องของเธอนั้นมันคือเรื่องจริง...
ณ คฤหาสน์เพชรไมตรี
"นั้นแกจะไปไหนหะ!!!"เสียงของชายวัย60ปี ตะโกนด้วยเสียงที่ดังลั่นบ้าน จนคนที่แอบฟังอยู่ถึงกับสะดุ้งไปตามๆกัน
"ก็แค่...ออกไปทำตามความฝันของตัวเองก็เท่านั้นเอง"เสียงที่ตอบกลับมาด้วยเสียงราบเรียบราวกับอยากจะให้รู้ว่าไม่ได้เกรงกลัวอะไรน้ำเสียงเมื่อครู่ที่พึ่งตะหวาดออกมาเลยแม้แต่น้อย
"หยุดเดียวนี้นะ!!! ฉันยังไม่อนุญาตให้แกออกไปไหนทั้งนั้น ถ้าหากแกก้าวขาออกไปจากบ้านหลังนี้เมื่อไรล่ะก็แกกับฉันเราตัดขาดคามเป็นพ่อลูกกัน!!!"เมื่อสิ้นเสียง ก็สามารถทำให้ฝีเท้าที่กำลังเดินอยู่นั้นหยุดชะงักลงได้ก่อนที่ขาข้างขวาจะก้าวออกไป เมื่อชายวัย60เห็นดังนั้น ก็ยิ้มอย่างพอใจ แต่ก็ต้องหุบยิ้มลงทันทีเมื่อได้ยินประโยคถัดไป "ถ้าคิดจะตัดพ่อลูกกันล่ะก็ ถ้าอย่างนั้น ข้าวของพวกนี้ ฉันคงไม่จำเป็นต้องเอาไปสินะคะ คุณเพชรไมตรี"ว่าจบหญิงสาวก็โยนข้าวของทิ้งลงพื้นไปโดยไม่สนใจไยดีอะไรของที่แพงแสนแพงนั้นอีก และ เดินไปทางประตูบ้านอีกครั้ง
เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ซ่า ซ่า
ซึ่งเหมือนกับฟ้าเป็นใจที่ฝนตกลงมาพอดีและฝนที่ตกลงมานั้นก็หนักมากไม่ทำทีว่าจะเบาลงเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างนั้น หญิงสาวก็ยังเดินออกจากบ้านไปโดยฝ่าฟนที่ตกกระหน่ำลงมาราวกลับกลั่นแกล้งเธอ
"หยุดเดี่ยวนี้นะ!! ฉันบอกให้หยุดไง ไนท์ ไนท์"เสียงของผู้เป็นพ่อนั้นตะโกนแข่งกับเสียงฝนที่ตกและฟ้าที่ผ่า เขาได้แต่มองเงาของลูกสาวของตนไปจนลับสายตา
2 ปีต่อมา
ณ ห้างสรรพสินค้า ย่านคนเดิน (อิอิ)
"โอ็ย นี่มัน วันอะไรเนี่ย"หญิงสาวผมสีบลอนด์ ผมยาวถึงกลางหลัง นัยน์ตาสีฟ้า ทำให้รู้ว่าเธอเป็นลูกครึ่ง เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ซึ่งตอนนี้เธอไม่สนใจอยากอื่นนอกจากการพักผ่อนสมอง เนื่องจากพึ่งสอบเสร็จมาหมาดๆ
"ก็วันพุธไงจ๊ะที่รัก"หญิงสาวผมบ๊อบ ทำสีหน้าทะเล้นใส่ เนื่องด้วยว่าเธอนั้นเป็นคนที่ขี้เล่น เล่นได้ทุกสถานที่
"แกจะกวนฉันไปเพื่อ..ฉันพูดกับตัวเองยะ แบร่ :P"หญิงสาวผมบลอนด์เริ่มเอาคืน
"อะไรก็แกถามฉันก็ตะ.."แต่ก็ยังพูดไม่จบก็มีเสียงที่ทำให้สองสาสามารถหยุดทะเลาะกันได้
"หยุด! ทะเลาะกันทำไมกลางห้างน่ะ แล้วก็ไม่ต้องตอบด้วยเพราะมันคือประโยคบอกเล่า"หญิงสาวผู้มาใหม่พร้อมหญิงสาวอีกสองคนที่หน้าตาเหมือนกันราวฟ้ากับแกะ ซึ่งหญิงสาวผู้สงบศึกได้นั้นเธอมีผมยาวสีดำขลับเหยียดตรงถึงสะโพก ดวงตาคมกริบ ใบหน้านิ่งสนิท ทำให้ไม่มีใครล่วงรู้ความคิดของเธอได้ง่ายๆ และหญิงสาวอีกสองคนพวกเธอเป็นฝาแฝดซึ่งบางครั้งเพื่อนในกลุ่มก็เกือบจะแยกไม่ออกกันเลยทีเดียว พวกเธอจะมัดผมรวบไว้ และมักจะแต่งตัวตามสไตล์เกาหลีเสมอ
"ไนท์ๆๆๆ ดูยัยสลึงนี่ดิ มันหาเรื่องฉันอ่ะ"//ฟ้องก่อนเลยคนแรก
"เฮ้ย! แก เรียกใครสลึง ฉันชื่อสตางค์ช่วยเข้าใจชื่อฉันใหม่ด้วยนะ - -"//เคือง
"ก็เหมือนกันนั้นแหละ มันก็เงินเหมือนกันป่ะล่ะ เชอะ"//เชิดหน้า
"นี่!! ยัยอาแมม แกจะหาเรื่องฉันต่อหน้าไนท์รึไง หา!!!"//ปรี๊ดแตก
"อะไร!! มาว่าแต่คนอื่น แกเองก็เรียกชื่อฉันผิดเหมือนกันนั้นแหละ ฉันชื่อเอมม่า ไม่ใช่อาแมม - -"
"โอ็ย อะไรของพวกแกเนี่ย อุตสาห์มาหลบร้อนทั้งที แถมยังได้มาเจอไนท์ด้วยจะมาทะเลาะกันทำเพื่อ?"
"นั้นดิ ถ้าวันหลังพวกแกมาแล้วทะเลาะกันงี้นะ ไว้ฉันมากับเค้กกับไนท์สามคนก็ได้ เนอะ"หันไปพยักหน้าให้เค้ก(แฝดพี่)
"ใช่ๆ ฉันก็ว่างั้นอ่ะ แต่จะว่าไป ทำไมไนท์เงียบๆอ่ะ(' ' ) ( ' ') แคลร์(แฝดน้อง)"เค้กว่าพลางมองซ้ายขวา
"จะไม่เงียบได้ไงอ่ะ ก็เดินไปนู้นแล้วอ่ะ"พูดจบก็ชี้นิ้วไปทางที่หญิงสาวนามว่าไนท์พึ่งจะเดินไป
หลังจากนั้น 30 นาที (หลังจากสงบศึกกันแล้ว)
ตอนนี้ 5 สาว กำลังมุ่งหน้าไปที่ชั้น2 จุดมุ่งหมายคือร้านไอศกรีมแต่ระหว่างทางนั้น..
ฟุ่บ
"เฮ้ย"//เสียงประสานของ5สาว
"อะ อะ อะ ไอ้หมอนั้น มันวิ่งราวกระเป๋าฉันอ่ะ"เอมม่าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆเนื่องจากความกลัว
"เธอรออยู่นี้แหละ สตางค์เธออยู่กับเอมม่าเข้าใจไหม"
"อะ อือ เข้าใจแล้ว"
"ส่วนพวกเธอเค้กกับแคลร์ ไปบอกรปภ.ที่อยู่ใกล้ที่สุดเข้าใจไหม"
"โอเค แล้วเธอล่ะ"
"ฉันก็จะตามไอ้บ้านั้นไปน่ะสิ"พูดจบหญิงสาวก็ออกตัววิ่งไปโดยที่่ไม่รอคำทักทวงจากเพื่อนๆหรืออะไรทั้งสิ้น
"จะไหวเหรอนั้น? ไนท์แค่คนเดียวเองนะ"พริ้งพูดอย่างกังวล
"เอาน่า เธอก็รู้ว่าไนท์น่ะเก่งแค่ไหน แล้วอีกอย่างเธอก็น่าจะรู้ว่าไนท์น่ะดื้อจะตาย"เมื่อสตางค์พูดจบ เพื่อนๆอีกสามคนก็พยักหน้าเห็นด้วยโดยที่ไม่ได้นัดหมาย
ด้านไนท์
"อยู่ไหนวะเนี่ย"สองขาเธอวิ่งไปสายตาก็มองหาไปทั่วทุกที่ สายตาเธอที่คมดุจเหยี่ยว
"sorry (ขอโทษนะครับ)
ระหว่างที่เธอกำลังมองหาตัวคนที่วิ่งราวกระเป๋าก็มีชาวต่างชาติมาสกิดเธอ
"Yes?(คะ?)
"Can you please help me?(ขอถามทางหน่อยได้ไหมครับ?)
"Okay (ได้ค่ะ)
หลังจากที่เธอได้บอกทางไปเรียบร้อยแล้ว
"Thank you very much(ขอบคุณมากครับ)"
"Fain(ยินดีค่ะ)"
และก่อนที่ชาวต่างชาติคนนั้นจะจากไปเธอก็ได้คว้าแขนเขาเอาไว้เสียก่อน
"ฉันว่า...มันแปลกๆนะ นายโผล่มาตอนที่ฉันกำลังหาคน แถมมาเจาะจงถามฉันทั้งๆที่แถวนี้ก็มีชาวต่างชาติเหมือนกัน"
"What?(อะไรกัน?)"
"ตอบฉันมาดีกว่าว่านายน่ะ เป็นใคร?"หญิงสาวถามพลางใช้สายตากดดันเพือเค้นคำตอบ
"เอ่อ...คือ ฉัน ผม ไอ แบบว่า แค่ผ่านมาเฉยๆอ่ะครับ ^^;;"ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเป้าเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง เนื่องจากไม่เคยถูกใครกดดันมาก่อน
"นาย...มาวิ่งราวกระเป๋าของเพื่อนฉันทำไม"คำถามทีถามเรียบๆแต่น้ำเสียงกลับเด็ดขาด
"เอ่อ....ถ้าเกิดบอกไปจะทำอะไรผมรึเปล่าล่ะครับ"ชายหนุ่มถามออกแนวต่อรองกับหญิงสาว
"หืม...ได้ถ้านายพูดความจริงล่ะก็นะ ฉันจะไม่เอาเรื่องนาย และก็จะไม่ส่งนายให้ตำรวจ โอเครึยังล่ะ"หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดเล็กๆ
"ครับๆ ที่ผมต้องวิ่งราวกระเป๋าของเพื่อนคุณเพราะว่า...ตอนนี้ผมน่ะไม่มีเงินติดตัวเลย แถมยังโดนพ่อแม่ไล่ออกจากบ้านมาด้วย ตอนนี้ผมไม่ได้กินอะไรมา3วันแล้วครับ แต่ว่าผมไม่เคยวิ่งราวกระเป๋าใครเลยนะครับ ผมพึ่งเคยทำวันนี้เป็นครั้งแรกเลยล่ะครับ เรื่องการปลอมตัวนี้ก็ด้วยครับ แหะๆ ^^;;"พูดจบ ชายหนุ่มก็ส่งยิ้มเจื่อนๆมาให้หญิงสาวที่ยืนฟังด้วยใบหน้านิ่งสนิทไม่ยินดียินร้าย ตกใจ หรืือแม้กระทั้งสงสาร
"ถ้าอย่างนั้น นายก็.."แต่ไม่ทันที่หญิงสาวจะได้พูดจบก็มีเสียงโวยวายมาจากด้านหลังของเธอ ทำให้บทสนทนาต้องหยุดชะงักไป
"ไนท์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!"เสียงที่ดังมากกก(ย้ำว่าดังมากกก)มาพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดังพอๆกับเสียงของคนตะโกน ซึ่งหญิงสาวเจ้าของชื่อนั้นก็เดาไม่ยากว่าเสียงนั้นคือใคร
"ไง มากันแล้วเหรอ ช้านะ"หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบ
"ขอโทษนะ ขอโทษที พอดีว่าเค้กบอกหารปภ.ไม่เจอเลยวิ่งหาแทบตายเลย"แคลร์แฝดคนน้องมาถึงก็ฟ้องก่อนเลย
"อะไร? จะมาโทษกันงี้ไม่ได้นะ ก็แคลร์เป็นคนบอกให้ไปอีกทางเองนั้นล่ะ"เค้กแฝดคนพี่มาได้ยินก็ท้วงขึ้น
"พอๆ ฉันไม่ได้จะว่าอะไรเลิกเถียงกันได้แล้ว"ไนท์ปรามเสียงเรียบ
"ขอโทษค่า"คู่แฝดพูดอย่างพร้อมเพรียง
"ไง มากันแล้วเหรอ ช้านะ"หญิงสาวเอ่ยเสียงเรียบกวกเธอไปบอกรปภ.รึยัง?"หญิงสาวถามพลางใช้สมองประมวลผล
"ใช่ๆ พวกเราแจ้งไปแล้วล่ะ เห็นว่าเขาจะรีบตามมาทันที อย่าทำอะไรก่อนที่เขาจะมากันน่ะ"เค้กว่า
"แล้วเขาก็บอกว่า อย่าเข้าใกล้คนที่วิ่งราวกระเป๋าให้อยู่ไกลๆเข้าไว้น่ะ"แคลร์พูดเสริม
"ถ้าอย่างนั้น เวลาที่พวกรปภ.มากันพวกเธอไม่ต้องพูดอะไรนะ แล้วถ้าเข้าถามอะไรก็บอกแค่ว่าไม่รู้ เข้าใจไหม?"ไนท์ว่าพลางกวาดสายตาหาทางหนีที่ไล่เอาไว้เผื่อฉุกเฉิน
"นี่พวกเธอ!!!!!!"เสียงผู้ชายวัยกลางคนที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้ารปภ.วิ่งมาพร้อมกับลูกน้องอีก2-3คน
"พวกเธอได้ทำอะไรลงไปรึเปล่าน่ะ ฉันบอกให้อยู่เฉยๆไม่ใช่รึไง"เมื่อหัวหน้ารปภ.มาถึงก็จัดการบ่นบรรดาสาวๆที่ยืนทำหน้างงกันอยู่ว่าตนทำอะไรผิดที่ยืนอยู่เฉยๆ
"ขอโทษทีนะคะ คุณลุงมาโวยวายอะไรงั้นเหรอคะ"ไนท์ถามหน้านิ่ง
"ก็ฉันบอกแล้วไง ว่าไม่ให้ทำอะไรก่อนที่พวกฉันจะมา ทำไมพวกเธอไม่ฟังกันบางเลยเนี่ย โอ็ย!! เด็กสมัยนี้ทำไมดื้อกับผู้ใหญ่ขนาดนี้เนี่ย"หัวหน้ารปภ.รายยาวราวกับว่าบรรดาสาวๆกลายเป็นโจรซะเอง
"พวกหนูก็ไม่ได้ไม่ฟังนะคะ ก็ยืนรอคุณลุงจนคุณลุงมานี่ไงคะ แถมยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลยค่ะ"หญิงสาวว่าด้วยใบหน้าเรียบเฉยที่ขัดกับคำพูดที่สุภาพ
"อย่ามาโกหกหน่อยเลย ฉันเห็นผู้ชายคนนั้นนะ ฉันเห็นว่าเธอเป็นคนจับเขาเองกับตาเลย"หัวหน้ารปภ.ยังเถียงแทบขาดใจ
"อย่างงี้นี้เอง ถ้าอย่างนั้นทำไมตอนแรกคุณลุงไม่ยอมลงมาช่วยล่ะคะ"หญิงสาวยิ้มเหยาะ ต่างจากหัวหน้ารปภ.ที่หน้าซีดไป "แล้วอีกอย่างนึง พวกเราก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าผู้ชายคนนี้น่ะเป็นเพื่อนของพวกเราเองน่ะค่ะ เขาอยากจะแกล้งพวกเราเล่นน่ะ แล้วเขาก็ชอบแกล้งพวกเราแบบนี้บ่อยๆนั้นแหละค่ะ วันนี้เขาก็ปลอมตัวแล้วก็แกล้งพวกเราเหมือนกัน เอ้า นายก็มาขอโทษพวกเขาด้วยสิ อย่ามัวแต่ยืนนิ่งสิ"ประโยคหลังหญิงสาวหันไปบอกกับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของ(อดีต)โจรวิ่งราวกระเป๋า
"เอ่อ ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายครับ"แม้จะยังงงๆอยู่แต่ชายหนุ่มก็เอ่ยปากขอโทษไปตามที่หญิงสาวบอกเพราะเขาเชื่อว่าหญิงสาวกำลังช่วยเขาอย่างแน่นอน อย่างน้อยเขาก็เชื่อแบบนั้นถึงจะไม่รู้ว่าทำไมก็ตาม
"เฮ้อ ถ้าอย่างงั้นก็อย่ามาเล่นอะไรพิเรนๆแบบนี้ในห้างแบบนี้ที่คนเดินเยอะแยะแบบนี้อีกล่ะ เข้าใจไหม?"หัวหน้ารปภ.ถามเสียง(เหมือน)เข้ม
"ขอโทษด้วยค่ะ/ครับ"
ผ่านไป40นาที(ย้ายไปที่นั่งกินไอศกรีม)
หลังจากที่เคลียร์กับบรรดารปภ.ได้ พวกไนท์โทรตามสตางค์และพริ้งมาที่ที่พวกเขานั่งกินไอศกรีมกันอยู่ หลังจากที่ทั้งสองคนมากันครบแล้ว
"เอาล่ะ ที่นี้เราก็มาคุยเรื่องของนายดีกว่านะ คุณโจรวิ่งราว"ไนท์เริ่มเปิดประเด็นด้วยใบหน้านิ่งสนิท
"เอ่อ อย่าเรียกผมว่าโจรวิ่งราวสิครับก็ผมบอกแล้วนิครับว่าผมไม่ได้ทำทุกวัน ผมเคยทำแค่ครั้งนี้แคครั้งเดียวเองครับแถมยังเป็นครั้งแรกด้วยนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะครับ"ชายวิ่งราวพูดอย่างรัวและเร็วมาก จนคนฟังกลัวว่าลิ้นจะพันกันซะก่อน
"งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นนายชื่ออะไร? อายุเท่าไร? ทำอาชีพอะไร? อาศัยอยู่ที่ไหน?"ไนท์ถามคำถามออกมาเป็นรัวแบบเป็นปืนกล นี่ถ้าเป็นปืนนิคงฆ่าคนจายไปได้หลายรอบเลยล่ะ -_-
"เอ้า...ไนท์ถามก็ตอบดิ ทำไมไม่พูดเนี่ยกลัวดอกพิกุลร่วงรึไงหะ!!"เอมม่าตะคอกด้วยความโมโหที่ชายหนุ่มเอาแต่เงียบไม่ปริปากพูดอะไรสักอย่าง
"ใจเย็นๆ เอมม่า เธอก็รู้ว่าถ้าเขาไม่พูดฉันก็มีวิธีให้เขาพูดได้"หญิงสาวแสยะยิ้ม แต่สามารถทำให้คนทั้งโต็ะขนลุกได้
"เอ่อ...คือผมชื่อว่านันทวัฒย์ กิจราชสมบัติ อายุ20ปี ตอนแรกทำอาชีพเป็นพนักงานบริษัทแต่โดนเขาไล่ออกมา1อาทิตย์แล้วครับ ส่วนที่อยู่อาศัยตอนนีก็ไม่มีครับ"ชายหนุ่มรีบพูดอย่างรวดเร็วเนื่องจากรู้สึกได้ว่าหากตนเองไม่ตอบคำถามหญิงสาวคนนี้ไป หญิงสาวอาจจะส่งเขาปหาสิ่งที่หน้ากลัวกว่าตำรวจก็เป็นได้ TT^TT
"โธ่!! ชีวิตนายนี่ ช่างน่าสงสารเหมือนในละคร แล้วก็เศร้าเหมือนในนิยายแถมยัง.."และก่อนที่สาวเอมม่าจะดราม่าไปมากกว่านี้ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาซะก่อน
"พอๆๆยัยเอมม่า เธอนี่หน้าตาไม่น่าจะอ่อนไหวกัเรื่องพวกนี้เลยนะ เอาซะฉันเซ็งเธอเลย - -"สตางค์ว่าพลาง(แกล้ง)ทำหน้าเบื่อ
"แล้วนายเรียนอยู่รึเปล่า"หลังจากที่นั่งเงียบใช้ความคิดอยู่นาน สาวเท่ของเราก็ถามขึ้นมาเรียบๆ
"เอ่อ..ครับผมเรียนอยู่แต่ผมเป็นนักเรียนทุนน่ะครับ แต่ก็ต้องทำงานหาเงินเองจ่ายค่าเทอมนั้นน่ะครับ"ชายหนุ่มตอบหญิงสาวด้วยทาทางคล้ายๆจะกลัวหญิงสาว
"นายเรียนคณะอะไร?สาขาอะไร?"ไนท์ถามเรียบๆ คล้ายๆจะไม่ได้สนใจอะไร
"ผมเรียนคณะแฟชั่นสาขาออกแบบน่ะครับ พอดีผมชอบออกแบบเสื้อผ้าเลยเข้าคณะนี้ ถึงแม้ว่าตอนแรกจะเข้าคณะบริหารก็เถอะ"ประโยคหลังนั้นชายหนุ่มพูดเบาราวกับพูดกับตนเองแต่คิดหรือว่าคนหูดีตาไวแบบไนท์จะไม่ได้ยิน
"อะไรที่ชอบก็ไม่มีใครสามารถบังคับได้หรอกนะ"อยู่ๆไนท์เปรยขึ้นเฉยๆ ราวกับว่าพูดให้ตัวเองฟังด้วย
".....ถ้าอย่างนั้นผมก็ขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกอย่างที่ทำให้แล้วก็เรื่องที่ช่วยผมในวันนี้ อ้อ แล้วก็ เรียกผมว่าไม้ก็ได้นะครับ ถ้าเราได้เจอกันอีกก็ดีนะครับ ^^"
"อ่า.. นายยิ้มแล้วดูดีแหะ ถ้างั้น ฉันชื่อสตางค์นะ เจอกันก็ทักได้นะ ^_^" สตางค์แนะนำตัวอย่างเขินๆ
"ส่วนฉันชื่อเอมม่านะจ๊ะ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษนะ ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษก็มาหาได้นะจ๊ะ(^_^)" เอมม่าออกตัวแรงไม่แพ้กัน
"ฉันชื่อเค้กนะเป็นแฝดพี่"เค้กว่า"ส่วนฉันแคลร์นะเป็นแฝดน้องจ๊ะ"แคลร์เสริม
"โห พวกคุณเป็นฝาแฝดที่เหมือนกันกระทั่งส่วนสูงเลยนิครับ ผมพึ่งเคยพูดคุยกับฝาแฝดใกล้ๆก็วันนี้แหละครับ"ชายหนุ่มว่าพลางหันหน้าไปมองไนท์ที่นั่งเงียบอยู่และกำลังมองไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจบนสนทนาบนโต็ะ
"มองหน้าฉันนี่อยากจะสื่ออะไรรึไง?"หญิงสาวว่าแต่ไม่ได้หันมามองหน้าคู่สนทนา แต่แค่นั้นก็ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งได้แล้ว
"เอ่อ...เปล่าครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณชื่อไนท์ใช่ไหมครับ?"ชายหนุ่มถามอย่างกล้าๆกลัวๆ
"ใช่ ทำไม มีปัญหาอะไรรึไงล่ะ - -"หญิงสาวว่า แต่ก็ไม่ได้สนใจชายหนุ่มอยู่ดี
"ผมแค่สงสัยน่ะครับว่า ชื่อของคุณแปลว่าอะไร...น่ะครับ"
"อัศวิน"หญิงสาวตอบสั้นๆ เรียบๆ ง่ายๆ แต่แค่นั้นก็ทำให้อีกฝ่ายไม่กล้าถามอะไรอีก แต่นั้นก็ทำให้เพื่อนอักสี่คนอดหัวเราะไม่ได้
"เห็นแบบนี้แล้ว นึกถึงตอนเจอกับไนท์แรกๆเลยแหะ"เอมม่า กระซิบเบาๆ
"ใช่ๆ ตอนเจอครั้งแรกก็แบบนี้นี่เนอะ"สตางค์ช่วยเสริม
"แบบไหนงั้นเหรอครับคุณไนท์เป็นอะไรเหรอครับ"ชายหนุ่มอดที่จะสงสัยไม่ได้จึงถามสองสาว
"ก็เมื่อสองปีก่อนน่ะ ไนท์น่ะ...."เค้กและแคลร์อดที่จะร่วมวงไม่ได้
2ปีก่อน(หลังจากที่ไนท์ออกจากบ้าน)
หลังจากที่หญิงสาวออกจากบ้านมาเพื่อตามหาความฝันของตัวเองตามที่ลั่นวาจาไว้กับพ่อของตน แต่เธอก็ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยมีก็แต่กระเป๋าเงินที่มีเงินเพียง หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาทเท่านั้น(ขาดทำไมอีกตั้งบาทนึงคะพี่น้อง - -) ซึ่งเธอเดินผ่านหน้าร้านขายของเธอจึงตัดสินใจเข้าไปซื้อหมวกและแว่นตาเพื่อปลอมตัว
เธอตัดสินใจปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อพลางตัว และระหว่างที่เธอเดินไปใช้ความคิดไปนั้นเธอก็เจอกับคู่รักคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันพอดี ซึ่งเธอก็ไม่ได้สนใจอะไรเพียงแต่ว่า...
"นี่!! ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะไม่ให้เงินนายแล้ว พอสักทีได้ไหม"ฝ่ายหญิงนั้นดูเหมือนจะอารมณ์เดือด และดูเหมือนจะโดนฝ่ายชายไถ่เงินอยู่และสักพักฝ่ายชายนั้นก็เกิดโมโหขึ้นมาจึง...
"นี่!! เธอสัญญากับฉันแล้วนี่ว่าเธอจะให้เงินฉันใช้น่ะ นี่เธอจะผิดสัญญารึไงหะ!!"ฝ่ายชายดูเหมือนจะโมโหขึ้นมาบ้าง ซึ่งไนท์ที่ยืนดูอยู่ไกลๆก็มองอย่างสมเพช (ก็นี่แหละนะคนสมัยนี่ กลัวว่าจะขึ้นคานจนต้องซื้อผู้ชายเลยรึไง เหอะ น่าเบื่อ ชะมัด) คิดดังนั้น หญิงสาวก็ทำท่าจะเดินไปเพียงแต่มีเสียงเสียงหนึ่งรังให้เธอชะงักขาไว้ได้ เพียะ!!! และเมื่อหญิงสาวหันไปก็พบว่าขายหนุ่มที่ทะเลาะกับหญิงสาวเมื่อครู่นั้นได้ตบหน้าหญิงสาวล้มลงอย่างแรง ซึ่งผู้คนที่ผ่านไปมานั้นก็ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือแต่อย่างใด เพียงแต่ยืนมุงดูเท่านั้น ไนท์เองก็เกือบจะเดินไปถ้าหญิงสาวคนนั้นไม่ตะโกนคำพูดที่ทิ่มแทงใจของเธอ
"ทำไม!!! แค่ฉันไม่ให้เงินนายแค่นี้ ฉันเคยบอกแล้วนิ ว่าฉันเก็บสะสมเงินนี้เพื่อที่จะไปทำตามความฝันของฉันของฉันน่ะ!!!"หญิงสาวตะโกนไปพลางร้องไห้ไป
ชายหนุ่มยิ้มหยัน"ความฝันบ้าๆของเธอที่อยากเป็นดีไซน์เนอร์ระดับโลกน่ะเหรอ เหอะ ฝันล้มๆแล้งๆ"ว่าจบก็ทำท่าเหมือนจะเข้ามาตบหน้าซ้ำหญิงสาวอีกครั้ง
แต่ทว่า.....หมับ!!! "เกิดไปหน่อยไหมล่ะพี่ชาย"ไนท์เข้าไปคว้ามือของชายหนุ่มเอาไว้ได้ทันก่อนที่ชายหนุ่มจะทันตบหน้าหญิงสาว
"เฮ้ย!! นี่แกเป็นใครเนี่ย มายุ่งเรื่องชาวบ้านเขาทำไมหะ!!"ชายหนุ่มโวยวายอย่างหัวเสีย
"พอดีฉันชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นงานอดเรก ส่วนงานประจำก็..." พลัก!! ไม่พูดจบไนท์ก็จัดการถีบยอดอกของชายหนุ่มขึ้โวยวายและฉุดมือหญิงสาวผู้โชคร้ายมาด้วยกัน วิ่งมาสักพักก็มาถึงกับป้ายรถเมย์ที่ไร้ซึ่งผู้คนไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันอาจจะเพราะว่าตอนนี้ดึกแล้วหรือตรงนี้เปลี่ยวก็เป็นได้ทั้งสองอย่าง
"แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก เหนื่อยชะมัดเลย วันนี้มันวันอะไรเนี่ย"หญิงสาวบ่นอุบอิบ
"วันศุกร์ - -"ไนท์ตอบนิ่งๆด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่คนฟังกลับเข้าใจเป็นอย่างอื่น
"นี่นาย!! มากวนฉันทำไมเนี่ย ฉันได้ถามนายฉันพูดคนเดียว เข้าใจ๊?"ประโยคหลังนั้นหญิงสาวถามไนท์ด้วยอาการที่เบื่อหน่าย
"...."หญิงสาวไม่ได้ตอบอะไร
"เอ้า แล้วทีนี้ทำไมไม่ตอบล่ะ"หญิงสาวเริ่มเหวี่ยง
"ก็เธอบอกเองไม่ใช่รึไงว่าไม่ได้พูดกับฉัน พูดคนเดียวน่ะ - -"ไนท์พูดเสียงเรียบ
"....นายนี่มัน...กวนประสาทคนเป็นงานอดิเรกรึไงหา!!!"หญิงสาวเหวี่ยงใส่ด้วยอารม์ณที่เริ่มไม่ดี
"เปล่านิ ก็แค่พูดไปตามความจริงเฉยๆ แต่เธอก็ควรจะขอบใจฉันน่ะนะ ที่ช่วยให้เธอไม่โดนตบสองรอบน่ะ (- -)"ไนท์บอกเสียงเรียบ
"เอ่อ...งั้นก็ ขอบใจแล้วกันที่มาช่วยฉันเอาไว้น่ะ พอใจยังล่ะ"หญิงสาวว่าพลางหน้าเจื่อนๆ
"อืม งั้นฉันไปล่ะ โชคดี"หญิงสาวว่าพลางจะเดินจากไปเพียงแต่ติดอยู่ที่....หมับ!!!
"เดียวก่อนสิ อย่าพึ่งไป"หญิงสาวคว้าแขนของไนท์ไว้แน่นและมองไนท์ตาแป๋ว แต่นั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวสนใจแต่อย่างใดหญิงสาวถามแค่ว่า
"เธอมีธุระอะไรอีกล่ะ? ถ้าไม่มีก็ช่วยกรุณาปล่อยมือตุ๊กแกจากแขนฉันด้วย เพราะฉันมีธุระต่อ พูดแค่นี้หวังว่าคงเข้าใจนะ?"ไนท์ว่าพลางสีหน้าเย็นยะเยือกขึ้นเรื่อยๆ
"คือว่า ฉันอยากจะรบกวนนายอีกแค่นิดเดียวเท่านั้นล่ะ พอดีว่าแถวนี้น่ะ มันเปลี่ยวแล้วตอนนี้ก็มืดแล้วใช่ไหมล่ะ?ฉันก็เลยอยากจะให้นายน่ะ เอ่อ..."หญิงสาวว่าไปพลางอ้ำอึ้งไป
"อยากให้ฉันไปส่งเพราะตอนนี้มันมืดแล้วก็เปลี่ยวแล้วถูกไหม?"ไนท์เห็นท่าทางของหญิงสาวจึงสรุปได้จากคำพูดทั้งหมด
"ใช่ นั้นแหลที่ฉันอยากบอกน่ะ"หญิงสาวยิ้มแหยๆ
"ก็ได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำรับฉันนิ"ว่าจบก็เดินทำท่าจะเดินไปแต่ต้องชะงักเท้าไว้เพราะว่า...
รีวิวผู้อ่าน
0 รีวิว
จัดเรียงตาม
อ่านบนแอปฯ Fictionlog
ดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อการอ่านที่ดียิ่งขึ้น