นวนิยายชีวิตของสามัญชนที่มีชีวิตอยู่ในสมัยรัชกาลที่๙ ไม่ได้ยากจนข้นแค้นจนถึงที่สุด แต่ก็มีชีวิตที่ยากลำบากและอุปสรรคชีวิตมากมาย ทั้งที่มาจากภายในครอบครัวเอง และจากภายนอก เช่น คนรอบข้าง หรือเหตุการณ์บ้านเมือง แต่เนื่องจากแม่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตตัวละครเอกของเรื่องที่เป็นสามสาวสามพี่น้องเป็นคนมุ่งมั่น อดทน ตั้งใจดีและมีจิตสาธารณะ แม่ได้ถ่ายทอดคุณสมบัตินี้ให้ลูกสาวทั้งสาม ทำให้ตัวเอกทั้งสาม สามารถผ่านอุปสรรคในชีวิตไปได้ โลกของเธอทั้งสามจึงหมุนไปได้ แต่จะหยุดหมุนเพราะอะไร เมื่อใด ต้องติดตามแบบไม่กระพริบตา....

โดยแบ่งออกเป็น ๓ ภาค

ภาค ๑

เป็นเรื่องราวของแม่บัวลา สามัญชนในสมัยรัชกาลที่ ๙ ซึ่งเป็นลูกชาวสวนชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นคนเรียนเก่งจึงได้รับโอกาสให้เป็นครู แม่บัวลาได้แต่งงานกับปราการ คนที่มีสถานะแบบเดียวกัน มีลูกสาวสามคนคือ สุดสวาท(หนึ่ง) โสมนัส(สอง) และสวัสด์นรี(สาม) ปราการรับราชการแต่ก้าวพลาดต้องรับโทษติดคุก ๒ ปี แต่แม่บัวลาก็ประคับประคองครอบครัวมาได้ แม่บัวลาพยายามส่งเสียให้ลูกได้เรียนมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้มีอาชีพและมีสถานะในสังคม ลุดสวาทเป็นโรคลมชัก จึงไม่ได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย แต่ก็สามารถสอบเข้ารับราชการเป็นเสมียนได้ ในขณะที่โสมนัสเรียนเก่ง สอบได้เข้ามาเรียนต่อในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษากรุงเทพฯและสอบเข้าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จนกระทั่งเรียนจบ ปราการเสียชีวิตก่อนโสมนัสเรียนจบมหาวิทยาลัย ในขณะที่สวัสดิ์นรี สอบเข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาในกรุงเทพฯได้ เมื่อเรียนจบโสมนัสเข้ารับราชการในกรม ๆหนึ่ง และได้พบกับวรา นักเขียนไส้แห้ง ผู้มีรายได้น้อย สวัสดิ์นรีมีหัวทางการเมือง และคบเพื่อนรุ่นพี่ที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน เกิดเหตุการณ์ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ เหตุการณ์ที่เป็นประดุจโลกหยุดหมุนครั้งใหญ่ของลูกสาวสองคนของแม่บัวลา

ภาค ๒

สวัสดิ์นรีสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ ในขณะนั้นบ้านเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ โสมนัสแต่งงานกับวรา และมีลูกอ่อนชื่อ แสงใด มีการเดินขบวนหลายครั้ง โสมนัสเฝ้ามองน้องด้วยความเป็นห่วง สวัสดิ์นรีแอบไปสมัครงานเป็นคนงานในโรงงานทอผ้า และไม่ยอมเรียนหนังสือ ในขณะที่สุดสวาท พบรักกับเมธา ข้าราชการที่ทำงานเดียวกัน และแต่งงานอย่างเรียบง่าย ในขณะที่แม่บัวลาทำสวนผลไม้อย่างแข็งขัน เพื่อส่งลูกสาวคนเล็กเรียนต่อ แต่สุขภาพทางกายก็เริ่มซุดเซ มีอาการวัยทอง จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ อันเป็นโลกหยุดหมุนครั้งใหญ่อีกครั้ง สวัสดิ์นรีถูกจับ แม่บัวลาเข้ากรุงเทพฯ เอาโฉนดที่ดินบ้านสวนมาประกันตัว สวัสดิ์นรีมีอาการทุกข์โศกถึงเพื่อนที่ตายไป และขอเข้าป่า วรามีเพื่อนหลายคนหลายสายจึงช่วยจัดการให้น้องสาวของโสมนัสเข้าป่าไป ชีวิตช่วงนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โลกหมุนช้า ราวกับตระกูลนี้แกว่งชิงช้าอยู่ในในความมืด

เวลาผ่านไป ประมาณ ๕ ปี เหตุการณ์ทางการเมืองคลี่คลาย พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๕๒๓ สร้างความปรองดองในชาติ ให้อภัยคนที่หนีเข้าป่าทั้งหมด ทำให้สวัสด์นรีกลับมาอย่างปลอดภัย แม่บัวลามีความสุข เร่งทำสวนผลไม้เพื่อส่งลูกคนเล็กเรียนอีกครั้ง ในขณะที่สุดสวาทกับเมธาสร้างครอบครัวอย่างอบอุ่น มีลูกเล็ก ๆด้วยกันสองคน

โสมนัสมีลูกคนที่สองเป็นชายชื่อ แสงดี ทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี สวัสดิ์นรีพบรักกับ ศานติ เพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันที่ออกมาจากป่า ทั้งสองคนกลับไปทำงานที่บ้านเกิดที่ระยองและตั้งร้านกาแฟ ซึ่งเป็นศูนย์รวมปัญญาชน เกิดเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ ๒๕๓๕ โลกหยุดหมุนครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของเธอ

ครอบครัวของโสมนัสกับวรา และครอบครัวของสวัสดิ์นรีกับศานติอยู่ในเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งนี้ แม้จะอยู่คนละท้องที่ แต่มีอารมณ์ร่วมเดียวกัน แสงใดกำลังโตเป็นสาวและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์กับวรา

ภาค ๓

หลาน ๆของแม่บัวลาเติบโตขึ้นอย่างมีความสุข แม่บัวลาแก่มากแล้ว และลูก ๆทุกคนกำลังตั้งตัว สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวก็คือ ทุกคนวิ่งตามเศรษฐกิจที่กำลังพัฒนาไม่ทัน ปี ๒๕๔๑ การลดค่าเงินบาทของพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อครอบครัวเล็ก ๆ วราล้มเหลวทางการลงทุนค้าข้าว ทะเลาะกับครอบครัว ศานติปิดร้านกาแฟ ทะเลาะกับพี่น้องร่วมหุ้น ส่วนครอบครัวสุดสวาททะเลาะกับคนเช่าบ้านเรื่องค่าเช่าบ้านที่คาราคาซัง แม่บัวลาเฝ้ามองด้วยความวิตกกังวล

เศรษฐกิจของลูก ๆมีปัญหาอีกครั้ง แต่ไม่มีใครบอกแม่บัวลา วรากับโสมนัส ย้ายตัวเองออกจากกรุงเทพฯเพื่อไปตั้งตัวใหม่ ในสวนป่าโป่งน้ำร้อน ศานติเปิดติววิชาคณิตศาสตร์หารายได้ สวัสดิ์นรีพยายามเปิดร้านไอติมและร้านหนังสืออีกครั้ง ส่วนสุดสวาท ต้องประสบปัญหาการถูกย้ายงาน ลูก ๆของทั้งสามครอบครัวต้องช่วยตัวเอง ทุกอย่างค่อย ๆคลี่คลายไปตามสภาพ แม่บัวลาเฝ้ามอง แต่ปัญหาสุขภาพไม่อำนวย

วันหนึ่ง โลกของพวกเขาก็หยุดหมุนสนิทนิ่ง

เกิดอะไรขึ้นกับแม่บัวลา และโสมนัสที่เคยมีโลกหมุนไป