9.00
ราคาของทุกตอน ไม่รวมตอนที่เคยซื้อไปแล้ว
รายละเอียด
บทความจากคนขี้เกียจ ที่คิดว่าตัวเองเป็นคนฉลาด อ้างอิงจาก งานวิจัยของมหาวิทยาลัย Florida Gulf Coast ของสหรัฐอเมริกา (คนเราก็แบบนี้ถ้าไม่มีเหตุผลเราก็มีข้ออ้าง)
อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครหลายคน ที่วันหนึ่งไม่ต้องไปทำงาน หรือจะว่าไปคือ วันหนึ่งไม่มีงานให้ทำ การดิ้นรน(มั้ง!) ในกรุงเทพเกือบ 15 ปี และบอกกับตัวเองมาตลอด 5 ปีท้ายๆ ว่าฉันจะไม่อยู่ที่กรุงเทพ! ไม่ใช่ว่าอยู่กรุงเทพไม่ดี แต่คิดว่าเมืองไทยมีที่น่าอยู่อีกมากมายที่ไม่ใช่กรุงเทพ ประกอบกับถึงเวลาและเหตุการณ์ที่ทำให้ได้โอกาส ถึงจะไม่ได้สวยนักถ้าไม่เรียกโอกาสก็ต้องเรียกเคราะห์หามยามไข้ ดังนั้นเราควรเรียกมันว่าโอกาสเวิร์กกว่า
การใช้ชีวิตที่ผ่านๆ มาให้ข้อคิดหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไป เวลาก็จะแค่ผ่านไป ไม่ว่าเราอยู่ที่ไหนเวลาก็คือเวลา เวลาไม่มีคุณค่าไม่ให้คุณค่า ทุกอย่างเป็นเพียงความต้องการจะปรุงแต่งช่วงเวลาของตัวเองว่ามีหรือไม่มีคุณค่า หากเราพอใจจะคิดว่าทุกนาทีของเรานั้นมีคุณค่านั่นก็จะเป็นการใช้ช่วงเวลาไปอย่างมีคุณค่า แต่ถ้าเราไม่ได้คิดอะไรเลยแค่อยู่และผ่านแต่ละช่วงเวลาของตัวเองไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ก็ไม่เชิงว่าเวลาไม่มีคุณค่าแต่เราลืมที่จะให้คุณค่ากับเวลาของเรา
แล้วเราก็มาอยู่บ้านเกิดตัวเอง จังหวัดเล็กๆ ในภาคอีสาน ที่อยู่แล้วชีวิตดี มีความสุขแต่! ไม่มีงานทำ
นอกจากจะต้องอยู่ให้ได้โดยที่ไม่มีงานทำแล้ว แต่ละวันยังต้องเจอคำถามสุดจี๊ด ของคนช่างสงสัยทั้งหวังดีประสงค์ดี ทั้งเป็นห่วงเป็นใยแต่มาผิดรูปแบบไปนิด ว่ามาอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำอะไรนี่นะอยู่ได้อย่างไร วันๆ ไม่ต้องทำอะไรเลยดีเนาะน่าอิจฉาจัง จะเกาะพ่อเกาะแม่ไปถึงเมื่อไหร่เธอ อินดี้ไปไหมเลือกงานเกินไปหรือเปล่า จะอยู่แบบนี้จริงเหรอ เอ้ยเรียนมาก็สูงไม่ไปทำงานทำการแบบนี้จะไปเรียนมาสูงๆ ทำไม -อันนี้ตอบได้ทันที ก็เรียนมาสูงๆ เพื่อที่จะไม่ไปพูดแบบนี้กับใครยังไงล่ะเพ่!!! แต่จริงๆ แล้วมันมีคำตอบที่เข้าท่าและนางเอกมากกว่านั้น ถ้าเราค่อยๆ คิดทบทวนไปเรื่อยๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเรานั้นสักวันมันจะเป็นของขวัญสำหรับเรา
คนเราถ้าทำอะไรไม่ได้มากก็แค่ยิ้มเอาไว้ แล้วเขียนๆๆๆๆ
และนี่คือข้อเขียนที่เต็มไปด้วยความสบายใจ ของนักเขียน(ตั้งเอง)สุดติสต์แห่งประเทศไทย!!!!!!
Nice to meet you แปลว่า ยินดีที่ได้รู้จัก แม้จะไม่รู้จักก็เถอะนะ